สารพันปัญหากับไทรอยด์ (ตอนที่ 15 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 13 กรกฎาคม 2560
- Tweet
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคเกรฟส์ ได้แก่
- เพศ - ผู้หญิงเป็นมากกว่าผู้ชาย
- อายุ - น้อยกว่า 40 ปี
- เป็นโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเองอย่างอื่น เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 1 โรคข้อรูมาตอยด์
- ภาวะเครียด
- ตั้งครรภ์
- สูบบุหรี่
โดยอาการแทรกซ้อนของโรคเกรฟส์ ได้แก่
- ทำให้แท้ง คลอดก่อนกำหนด ต่อมไทรอยด์ของทารกทำงานไม่ปกติ ทารกไม่โต แม่มีภาวะหัวใจวายและครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia)
- หากไม่ทำการรักษา โรคเกรฟส์จะทำให้เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจไม่มีแรงสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกาย ทำให้มีภาวะหัวใจวาย (Congestive heart failure)
- ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษวิกฤต (Thyroid storm) เพราะไทรอยด์ฮอร์โมนสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้เป็นไข้ เพ้อ อาเจียน ท้องเสีย หัวใจเต้นผิดจังหวะ ตาและผิวสีเหลือง ความดันต่ำ หมดสติ และเสียชีวิตได้
- กระดูกพรุน เพราะไทรอยด์ฮอร์โมนที่มากจะไปลดการดูดซึมของแคลเซียมในกระดูก
สำหรับการวินิจฉัยโรคเกรฟส์ทำได้ด้วย
- การตรวจร่างกาย เช่น ดูขนาดคอ วัดชีพจร วัดความดันโลหิต ดูอาการสั่น
- การตรวจเลือด เพื่อดูค่า TSH ที่ต่ำ และค่าไทรอยด์ฮอร์โมนที่สูง
- การใช้รังสีไอโอดีน
- การอัลตราซาวด์
- ภาพวินิจฉัย เช่น CT scan หรือ MRI
ส่วนการรักษาโรคเกรฟส์ทำได้ด้วยการ
- การใช้รังสีไอโอดีน
- การใช้ยาต้านไทรอยด์
- การใช้ยากลุ่ม Beta blockers
- การผ่าตัด
โดยการรักษาโรคทางตานั้น แพทย์อาจแนะนำให้ใช้
- ยาสเตียรอยด์ (Corticosteroids) เช่น ยา Prednisone เพื่อลดอาการบวมของตา ซึ่งอาจมีผลข้างเคียง คือ มีการบวมน้ำ น้ำหนักตัวเพิ่ม ค่าน้ำตาลสูงขึ้น ความดันสูงขึ้น และอารมณ์แปรปรวน
- การผ่าตัดขยายเบ้าตาเพื่อให้ตายุบกลับเข้าไป (Orbital decompression surgery) ซึ่งอาจมีผลข้างเคียง คือ การมองเห็นภาพซ้อน
- การฉายรังสีที่เบ้าตา (Orbital radiotherapy)
ส่วนการรักษาโรคทางผิวนั้น ให้ใช้ครีมหรือขี้ผึ้งที่มีส่วนประกอบของยา Hydrocortisone เพื่อลดอาการบวมแดง
แหล่งข้อมูล:
- Graves' disease. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/graves-disease/basics/definition/con-20025811 [2017, July 12].