My Epilepsy Diary ลมชัก…..ฉันรักเธอ ตอนที่ 23: ของขวัญที่ยิ่งใหญ่

สวัสดีปีใหม่ค่ะอาจารย์

หนูคิดว่าอาจารย์คงได้อ่านบันทึกตอนที่ หนูกำลังเขียนเรื่องนี้อีกนานแน่ๆ เพราะว่าหนูแทบจะไม่มีเวลาเขียนเลย พรุ่งนี้ก็จะขึ้นกองศัลยกรรมกระดุก (orthopedics) แล้ว ยังไม่รู้จะเสร็จเมื่อไร

ก่อนหน้านี้หนูไม่ค่อยได้เขียนมาคุยกับอาจารย์เท่าไรนัก คงเป็นเพราะหนูกลับมาเรียนแล้ว และหนูมีอีกงานหนึ่งที่หนูตั้งใจว่าจะต้องทำให้สำเร็จ คือ “ของขวัญปีใหม่ จากใจคนไข้ ให้อาจารย์หมอ”

ของขวัญชิ้นนี้เกิดจากความบังเอิญจริงๆ วันหนึ่งหนูโละของเก่าออกจากลิ้นชัก เจอกระดาษสวยๆ ของตกแต่ง เครื่องประดับเล็กๆน้อยๆ ที่หนูเก็บสะสมไว้ บางชิ้นก็อยู่ในลิ้นชักมาตั้งแต่หนูอยู่ชั้นประถม ด้วยความ “ขี้เสียดาย” ตอนนี้มันกลับรกรุงรังเต็มไปหมด ถ้าจะเก็บก็คงต้องไปซื้อชั้นวางของมาเพิ่ม แต่เก็บในลิ้นชักแบบนี้ สิบปีผ่านไปก็คงเหมือนเดิม ถ้าเราไม่เอาออกมาใช้ให้เป็นประโยชน์

กระดาษแข็งจากปฏิทินเก่า กระดาษรีไซเคิล ของตกแต่ง เครื่องประดับ สมุดที่ไม่ได้ใช้แล้ว จึงค่อยๆ กลายเป็นรูปเป็นร่างขึ้นที่ละน้อย ทุกครั้งที่หนูไปช่วยทำกิจกรรมกลุ่มคนไข้ลมชัก หนูตั้งใจว่าจะให้คนไข้เขียนคำอวยพรเพื่อเป็นการขอบคุณอาจารย์ และการทำตัวใหม่ให้ดีขึ้น (new year resolution) ของตนเอง ว่าปีใหม่นี้จะดูแลตัวเองอย่างไรให้ดีขึ้น เพราะของขวัญที่หมออยากได้มากที่สุด ก็คือการที่คนไข้หายป่วย มีสุขภาพดี ทั้งกายและใจ และเหมือนเป็นการให้คำสัญญากับอาจารย์ไว้ด้วย

เราทุกคนตกลงกันว่าจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับสุดชีวิต ก็อาจารย์เคยบอกหนูว่าชีวิตนี้มันก็เหมือนเดิมทุกวัน อยากมีเรื่องเซอร์ไพรส์บ้าง เลยจัดให้เต็มที่เลยค่ะ หนูเข้าใจว่าชีวิตหมอก็มีเรื่องเครียดมากมาย คิดว่าถ้าอาจารย์ได้อ่านคำอวยพรจากคนไข้หลายๆ คน ความเหนื่อยล้าคงทุเลาลงบ้าง หนูอ่านแล้วก็ยังนึกอยากเป็นอาจารย์ขึ้นมาทันที อยากช่วยเหลือคนไข้ให้ได้มากมายเหมือนอาจารย์

และแล้ว กระดาษแผ่นน้อยที่สื่อความประทับใจของคนไข้ที่มีต่ออาจารย์ ก็ได้นำมาติดรวมกันบนบอร์ดแผ่นใหญ่ ตกแต่งจนเสร็จเรียบร้อย และหนูใช้กระดาษจากหน้าปกใบแล็บ (lab) และปฏิทินใหม่ที่หนูได้มาอีก 1 อัน มาติดเป็นปฏิทินข้างล่าง อาจารย์จะได้หันมาดูบ่อยๆ

กิจกรรมนี้สอนให้หนูรู้จักการ "พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส" จากของรกบ้าน และสิ่งที่บางคนอาจมองว่าเป็นขยะ สู่ของขวัญเล็กๆน้อยๆ ที่ไม่ได้ลงทุนด้วยทรัพย์สินใดๆ แต่มาจากใจที่ยิ่งใหญ่ของคนไข้ทุกคน และยังทำให้หนูรู้สึกมีกำลังใจในการเรียนมากขึ้น จะได้จบเป็นหมอรักษาคนไข้อย่างอาจารย์ค่ะ

บทสรุป โรคลมชักไม่ได้ทำลายความคิดสร้างสรรค์ แต่สามารถทำงานด้านการฝีมือ ศิลปะจากวัสดุเหลือใช้ได้อย่างน่าพิศวงและสวยงาม ซึ่งมีคุณค่าทางจิตใจ ของขวัญที่ยิ่งใหญ่และทำให้หมอมีกำลังใจมากที่สุด คือ การที่ผู้ป่วยหายดี มีกำลังใจที่ดีในการดูแลรักษาสุขภาพ มิใช่สิ่งของที่ใหญ่โตหรือมีมูลค่ามากมาย สิ่งที่ทำจากใจที่ยิ่งใหญ่ของน้องออยและผู้ป่วยนั้นเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ทำให้หัวใจผมพองโต