ที่มา: ลมชัก…… ฉันรักเธอ (My Epilepsy Diary)

สวัสดีครับ เรื่องราวที่ท่านผู้อ่านจะได้อ่านอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาสองสามเดือนต่อจากนี้ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ น่าติดตาม น่าศึกษาและน่าจะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการดูแลตนเองที่เจ็บป่วยด้วยโรคลมชัก และผมยังเชื่อมั่นว่าถ้าเราสามารถนำข้อคิดที่ได้จากเรื่องราวใน blog นี้ “ ลมชัก….. ฉันรักเธอ” ผมเชื่อมั่นว่าท่านจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้กับการดำรงชีวิตประจำวันได้ด้วย และไม่เพียงเฉพาะผู้ป่วยเท่านั้น พ่อ แม่ ผู้ปกครอง หมอทุกๆคนก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เช่นเดียวกัน

เรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อจากนี้เป็นเรื่องจริง ที่น้องออย นักศึกษาแพทย์ (นศพ) ผู้เจ็บป่วยเป็นโรคลมชัก ได้เขียน e-mail มาถึงผมในช่วงแรกที่น้องออยรู้ว่าตนเองเป็นโรคลมชัก น้องได้เล่า บ่น ระบาย และหลากหลายความรู้สึกที่น้องได้ประสบกับตนเอง ผมเองยอมรับเลยว่า ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า การที่คนคนหนึ่งป่วยเป็นโรคลมชักนั้นจะได้รับผลกระทบมากมายขนาดนี้ ผมเองได้รักษาผู้ป่วยโรคลมชักมากว่า 23 ปี ดูแลผู้ป่วยมาก็มากมาย แต่ไม่เคยรู้อย่างลึกซึ้งมากมายขนาดนี้ ผมยอมรับว่าในขณะที่อ่าน e-mail แต่ละฉบับที่น้องออยส่งมาถึงผมนั้น ผมอ่านด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้ด้วยตัวหนังสือ แต่จะมีน้ำตาคลอเบ้าตลอดเวลาที่ได้อ่านเรื่องราว แต่ละครั้งที่ผมอ่านจบ ผมก็จะตอบ e-mail น้องเขาไปทุกครั้ง ด้วยการให้กำลังใจได้เพียงอย่างเดียว คือไม่รู้ว่าจะช่วยน้องออยได้อย่างไรนอกจากให้กำลังใจเท่านั้น

เมื่อผมได้รับ e-mail ของน้องมาเป็นระยะหนึ่ง ผมก็เกิดความคิดว่าเรื่องราวที่น้องออยเขียนมานั้น น่าจะนำมาเผยแพร่เพื่อเป็นกรณีศึกษาต่อคนอื่นๆ รวมทั้งหมอผู้ดูแลรักษาผู้ป่วยด้วย ผมเองเคยได้พูดคุยกับน้องออย คุณพ่อ คุณแม่ที่ท่านเป็นหมอทั้งสองคนว่า จะขออนุญาตเผยแพร่เรื่องราวของน้องออยสู่วงกว้าง เพื่อให้สังคมได้รับรู้ว่า ผู้ที่เป็นโรคลมชักนั้นรู้สึกอย่างไร คิดอย่างไรกับสิ่งต่างๆที่เข้ามาในชีวิต ซึ่งคุณพ่อและคุณแม่ทั้งสองก็ได้ให้ความกรุณาอย่างยิ่งสนับสนุนกิจกรรมต่างๆที่ผมและกลุ่มวิจัยโรคลมชักแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดกิจกรรมเพื่อเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจ ทัศนคติที่ถูกต้องต่อโรคลมชัก และผู้ป่วยลมชักมาอย่างต่อเนื่อง น้องออยได้จัดทำปฏิทินให้ความรู้โรคลมชัก เขียนบทความเล่าเรื่องราวของน้อง ซึ่งบางส่วนท่านได้อ่านมาแล้วใน blog ของผมที่ผ่านมาแล้ว รวมทั้งได้จัดทำหนังสือ “ลมชัก…. ฉันรักเธอ” แจกจ่ายให้ผู้สนใจเกี่ยวกับโรคลมชักได้อ่านกัน และร่วมออกบรรยายกับผมในฐานะทูตโรคลมชัก

ผมเองเป็นเพียงหมอที่รักษาผู้ป่วยโรคลมชักที่สามารถให้การรักษาผู้ป่วยได้เพียงส่วนน้อยนิด เมื่อเทียบกับผู้ป่วยที่มีจำนวนมากในประเทศไทย ผมจึงพยายามหาช่องทางในการเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคลมชักสู่สังคม ดังนั้นเรื่องราวที่ท่านจะได้อ่านต่อจากนี้ไปเป็นเรื่องราวที่น้องออยได้เขียน e-mail ถึงผม และเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ที่เหมาะสมด้วย ผมจึงได้จัดให้มีการสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ในแต่ละเรื่องราว โดยจิตแพทย์ผู้มากประสบการณ์และผมด้วย

ผมหวังว่าเรื่องราวดีๆ นี้จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยเกี่ยวกับทัศนคติต่อโรคลมชัก และประโยชน์ที่เกิดขึ้นนั้นขอให้เป็นบุญกุศลส่งผลให้น้องออยและผู้ป่วยลมชักทุกคนหายจากโรคลมชัก