รวมมิตรวิตามิน (ตอนที่ 2)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 17 กุมภาพันธ์ 2559
- Tweet
สำหรับปริมาณความต้องการวิตามินเอนั้น ในสหภาพยุโรปได้กำหนดปริมาณในผู้ชายเป็น 700–1000 ไมโครกรัม (mcg) Retinol Equivalents (RE) ต่อวัน ในผู้หญิงเท่ากับ 600–800 mcg RE ต่อวัน ส่วนในสหรัฐอเมริกาได้กำหนดปริมาณในผู้ชายเป็น 900 mcg ต่อวัน และผู้หญิงเท่ากับ 700 mcg ต่อวัน
ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินเอส่วนใหญ่เป็นหญิงตั้งครรภ์และหญิงให้นมบุตร ทารกแรกเกิด เด็กที่ติดเชื้อบ่อย ผู้สูงอายุ และผู้ที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์
ทั้งนี้ แหล่งของวิตามินเอที่มีมากที่สุด ได้แก่ ตับ ไข่แดง นม เนย ส่วน Provitamin A carotenoids เช่น เบต้าแคโรทีน จะพบในแครอท ผักใบสีเขียวเข้มและสีเหลือง อย่างผักปวยเล็ง บร็อคโคลี ฟักทอง แอปริคอท แตงโม และน้ำมันปาล์ม
วิตามินเอจะถูกเก็บสะสมอยู่ที่ตับ หากมีมากเกินไปจะมีผลให้ตับถูกทำลาย กระดูกผิดรูป และปวดข้อ ส่วนหญิงระหว่างตั้งครรภ์หากได้รับวิตามินเอที่มากเกินอาจทำให้เด็กมีรูปร่างที่ผิดปกติได้
วิตามินซี
วิตามินซี หรือที่เรียกกันว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ โดยสัตว์ส่วนใหญ่สามารถสังเคราะห์วิตามินซีขึ้นในร่างกายได้เอง แต่มนุษย์ไม่สามารถสังเคราะห์ได้ จึงต้องได้รับวิตามินซีจากอาหาร
การได้รับวิตามินซีที่น้อยไปจะทำให้เป็นโรคเกี่ยวกับหลอดเลือดและหัวใจ เช่น โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) โรคหลอดเลือดตีบแข็ง (Atherosclerosis) และโรคมะเร็งบางชนิด
วิตามินซี มีความสำคัญต่อร่างกาย โดยช่วย
- สร้างคลอลาเจน (Collagen) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญต่อผิว กระดูกอ่อน (Cartilage) เอ็นกล้ามเนื้อ (Tendons) เอ็นยึดข้อ (Ligaments) และหลอดเลือด
- ช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ
- รักษาแผล
- ซ่อมและรักษากระดูกและฟัน
- สังเคราะห์สารสื่อประสาท (Neurotransmitters)
- ร่วมกับวิตามินอี และสารอาหารอื่นๆ ในการจำกัดการทำลายที่เกิดจากสารอนุมูลอิสระ (Free radicals) ที่ทำให้เกิดความเสื่อมตามอายุ การเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคไขข้ออักเสบ (Arthritis)
แหล่งข้อมูล
1. Vitamin A. http://www.nutri-facts.org/eng/vitamins/vitamin-a-retinol/at-a-glance/ [2016, February 16].
2. Vitamin C. http://www.nutri-facts.org/eng/vitamins/vitamin-c-ascorbic-acid/at-a-glance/[2016, February 16].