มองโรค(โลก)แบบหมอสมศักดิ์ ตอน: ปวดหัวจนตามัว

อาการปวดหัวในผู้สูงอายุ เป็นอาการที่ต้องพึงระมัดระวังอย่างยิ่งว่าจะมีสาเหตุที่อันตราย ไม่ควรนิ่งนอนใจว่าอาการปวดหัวเดี๋ยวทานยาแก้ปวดก็หาย

วันหนึ่งผมได้ดูผู้ป่วยชายอายุ 60 ปี มีอาการปวดศีรษะที่ขมับขวามาหนึ่งเดือน ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ มีไข้ต่ำๆ เคี้ยวอาหารไม่สะดวกและจะปวดกรามเวลาเคี้ยวอาหาร ต่อมามีอาการปวดหัว ตามองไม่ชัด ที่ผ่านมาไม่ได้ไปพบแพทย์ที่ไหนเลย เพราะคิดว่าปวดหัวธรรมดาจนกระทั้งตาขวามองไม่ชัดจึงตกใจว่าทำไมตามองไม่ชัด จึงมาพบแพทย์

ผมฟังประวัติที่เล่ามาทั้งหมด เข้าได้กับโรคการอักเสบของหลอดเลือดบริเวณขมับ (Giant Cell arteritis หรือ Temporal Cell arteritis) ตรวจพบว่ามีการกดเจ็บของหลอดเลือดบริเวณขมับขวา ดูประสาทตาพบว่ามีลักษณะของการขาดเลือด ตรวจการอักเสบของเลือด พบค่าสูงมากกว่าร้อย ซึ่งเข้าได้กลับโรคดังกล่าว

โรคอักเสบของหลอดเลือดบริเวณขมับนั้น ต้องรักษาด้วยยาเพ็ดนิโซโลนขนาดสูงเป็นระยะเวลานานหลายเดือน อาการผู้ป่วยก็ค่อยๆ ดีขึ้นแต่อาการตามัวไม่ดีขึ้น

โรคอักเสบของหลอดเลือดบริเวณขมับพบบ่อยในผู้สูงอายุ อาการเริ่มต้นคือปวดหัวบริเวณขมับร่วมกับอ่อนเพลีย มีไข้ต่ำๆ ปวดกรามเวลาเคี้ยวอาหาร ถ้าเป็นนานและไม่ได้รับการรักษา จะมีการอักเสบของหลอดเลือดตาด้วย จึงมีอาการตามัว มองไม่เห็น

ดังนั้นถ้าผู้สูงอายุมีอาการปวดหัวควรต้องคิดถึงสาเหตุที่อันตรายไว้ก่อน เช่น เลือดออกในสมอง หลอดเลือดสมองอุดตัน รวมถึงหลอดเลือดสมองอักเสบ อย่างผู้ป่วยรายนี้ ถ้าวินิจฉัยไม่ได้ หรือให้การรักษาช้าอาจถึงตาบอดได้