ฟันผุ ไม่ใช่เรื่องของเด็ก (ตอนที่ 2)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 24 กุมภาพันธ์ 2558
- Tweet
ฟันผุเป็นปัญหายอดนิยมของคนทั่วโลก คนส่วนใหญ่มักคิดว่ามีเพียงเด็กเท่านั้นที่ฟันผุได้ แต่ความจริงแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะเมื่ออายุมากขึ้น เหงือกจะร่นลงหรือเป็นโรคเหงือกอักเสบ (Gum disease) ซึ่งทำให้เกิดคราบแบคทีเรียที่รากฟันได้ และเมื่อมีการกินอาหารที่ประกอบด้วยน้ำตาลเป็นจำนวนมากก็ทำให้เกิดฟันผุได้มากขึ้น
อาการของฟันผุแตกต่างกันไปขึ้นกับขนาดและตำแหน่งที่ผุ เมื่อฟันเริ่มผุอาจจะไม่ปรากฏอาการใดเลย ต่อเมื่อฟันผุมากขึ้นๆ อาจเป็นสาเหตุและทำให้เกิดอาการดังต่อไปนี้ได้ เช่น
- ปวดฟัน
- เสียวฟัน
- ปวดเมื่อกินหรือดื่มน้ำหวานร้อนหรือเย็น
- มีรูในฟัน
- มีคราบสีน้ำตาล ดำ หรือขาวบนบริเวณผิวฟัน
- ปวดเมื่อมีการกัดหรือเคี้ยว
เนื่องจากเราไม่สามารถรู้สึกได้ว่าฟันผุกำลังเริ่มก่อตัว ดังนั้นจึงต้องอาศัยการไปตรวจสุขภาพฟันเป็นประจำกับทันตแพทย์แม้ว่าจะไม่รู้สึกว่าฟันมีปัญหาอะไรก็ตาม และหากมีอาการปวดฟันหรือปวดปากก็ควรรีบไปพบทันตแพทย์ให้เร็วเท่าที่จะเป็นไปได้
ฟันผุเป็นกระบวนการที่ใช้เวลาในการเกิด โดยมีพัฒนาการดังนี้
- การก่อตัวของคราบแบคทีเรียบนผิวฟัน (Plaque forms) ที่มาจากอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เมื่อไม่ได้ทำความสะอาดฟันอย่างถูกวิธี แบคทีเรียจะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและก่อให้เกิดกรด เป็นคราบเคลือบฟันไว้ ซึ่งถ้าลองใช้ลิ้นกวาดไปที่ฟัน เราอาจจะรู้สึกได้ถึงความขรุขระที่อยู่บนผิวฟัน โดยเฉพาะในส่วนที่อยู่ติดกับเหงือกซึ่งเป็นแหล่งสะสมของแบคทีเรียที่ดี
- การจู่โจมของคราบแบคทีเรีย (Plaque attacks) กรดที่อยู่ในคราบแบคทีเรีย จะกัดกร่อนสารเคลือบฟันด้านนอก (Outer enamel) และทำให้ฟันเป็นรูซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของฟันผุ เมื่อเคลือบฟันถูกทำลายไปเรื่อยๆ แบคทีเรียและกรดก็จะเข้าถึงชั้นต่อไปของฟันที่เรียกว่า เนื้อฟันหรือส่วนของฟันที่มีแคลเซี่ยม (Dentin) ซึ่งส่วนนี้จะอ่อนกว่าเคลือบฟันและทนทานต่อกรดได้น้อยกว่าเคลือบฟัน
- การทำลายฟัน (Destruction continues) เมื่อฟันผุไปเรื่อย แบคทีเรียและกรดจะเข้าสู่ตัวฟันมากขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงฟันชั้นในหรือเนื้อฟัน (Pulp) ที่ประกอบด้วยเส้นประสาทและเส้นเลือด เนื้อฟันจะบวมและระคายเคืองจากแบคทีเรีย อาจจะมีอาการปวดฟันอย่างรุนแรง เสียวฟัน หรือปวดเมื่อกัด ร่างกายจะตอบสนองต่อการบุกรุกของแบคทีเรียด้วยการส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับเชื้อ ซึ่งอาจจะทำให้มีการอักเสบหรือเป็นฝีที่ปลายรากฟัน (Tooth abscess)
ทั้งนี้ ทันตแพทย์สามารถทำการตรวจฟันได้โดย
- สอบถามเกี่ยวกับอาการปวดและอาการเสียวฟัน
- ตรวจช่องปากและฟัน
- ใช้เครื่องมือสำหรับแหย่ตรวจบริเวณที่นิ่ม
- ใช้การเอ็กซเรย์ฟัน เพื่อดูขนาดของหลุมที่ฟัน
แหล่งข้อมูล
- Cavities/tooth decay. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/cavities/basics/definition/con-20030076 [2015, February 23].
- Dental Health and Cavities. http://www.webmd.com/oral-health/guide/dental-health-cavities [2015, February 23].