จิตวิทยาในชีวิตประจำวัน - ภาคที่ 2
จิตวิทยาวัยรุ่น ตอนที่ 82 : วัยรุ่นฆ่าผู้อื่น (3)
- โดย ดร. วิทยา มานะวาณิชเจริญ
- 7 เมษายน 2558
- Tweet
แม้วัยรุ่นผู้ยิง (Shooter) จะมีความแตกต่างกัน นักวิจัยได้ค้นหาปัจจัยเสี่ยง (Risk factor) ที่วัยรุ่นฆาตกรมีร่วมกัน อันได้แก่
- ผู้ยิงส่วนใหญ่ แสดงความโกรธและอาการซึมเศร้า (Depression) ที่ควบคุมไม่ได้ กล่าวโทษผู้อื่นว่า เป็นตัวปัญหา และข่มขู่ว่า จะใช้ความรุนแรง (Violence) ส่วนมากมีประวัติของความก้าวร้าว (Aggression) ทั้งทางร่างกาย วาจา หรือทั้งสองอย่าง และมีปัญหาถูกลงโทษ (Discipline) ทั้งที่โรงเรียนและที่บ้าน
- ครึ่งหนึ่งของผู้ยิง ได้รับการดูแลจากพ่อแม่ (Parental supervision) น้อยมาก มีปัญหาในเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว และมองเห็น (Perceive) ว่าตัวเองไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว ส่วนมากมีประสบการณ์ไม่นานมานี้ในเรื่องการแตกหักในเรื่องความสัมพันธ์ [กับเพศตรงข้าม] เหตุการณ์ตึงเครียด หรือการสูญเสียสถานะ
- ส่วนใหญ่ของผู้ยิง ถูกแยกตัวออกมาอยู่อย่างสันโดษ (Isolation) เพราะถูกปฏิเสธจากเพื่อนๆ ในโรงเรียน ส่วนมากไม่มีทักษะที่ดีทางสังคม และรู้สึกถูกหาเรื่อง (Picked) และถูกข่มเหง (Persecuted) รวมทั้งมีเพื่อนที่ต่อต้าสังคม (Anti-social) ด้วยกัน แรงจูงใจ (Motive) ที่อยู่เบื้องหลังการยิง มักอยู่ที่เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม จากการแก้แค้นเพื่อนหรือผู้ใหญ่ที่กระทำผิดต่อผู้ยิง และ/หรือ เพื่อให้ได้รับสถานะ หรือความสำคัญในหมู่เพื่อนฝุง
- ในทุกรณี ผู้ยิงเข้าถึงอาวุธปืน (Fire-arm) ได้ง่าย ซึ่งอยู่ภายในบ้าน หรือในทีมยิงปืนของโรงเรียน
- ผู้ยิงส่วนใหญ่ ให้สัญญาณของความตั้งใจก่อเหตุรุนแรง ซึ่งไม่ได้รับความสนใจอย่างจริงจัง ตัวอย่างเช่น คิปแลนด์ คินเคิ่ล (Kipland Kinkel) ได้อ่านต่อหน้าชั้นเรียน เกี่ยวกับบันทึกรายวันของการฆ่าเพื่อนนักเรียน แบรี่ โลอูไคทิศ (Barry Loukaitis) แต่งเป็นคำกลอนด้วยเนื้อหาว่า “ฉันมองดูศพของเขาบนพื้น / ฆ่าไอ้วายร้าย (Bastard) ที่สมควรตาย / มิให้เหมือนสิ่งใด ในโลกนี้” ส่วน ลุ้ค วู๊ดแฮม (Luke Woodham) เขียนบันทึกว่า “ฉันทำสิ่งนี้ เพื่อแสดงให้สังคม . . . เห็นว่า ไม่มีใครรักฉันอย่างจริงใจ
สมาคมแห่งชาติสำหรับนักจิตวิทยาในโรงเรียน (National Association of School Psychologists) ได้รวบรวมปัจจัยเสี่ยง 17 รายการ (ความโกรธที่ควบคุมไม่ได้ การขู่ฆ่าตัวตาย การปลีกตัวออกจากสังคม ประวัติของความก้าวร้าว ฯลฯ) ที่เพิ่มโอกาสของการกระทำที่รุนแรง แล้วพบว่า ผู้ยิงส่วนใหญ่ดังกล่าวข้างต้นมีปัจจัยความเสี่ยงอย่างน้อย 13 ใน 17 รายการ
นักวิจัยยังแนะนำว่า เมื่อทราบว่าวัยรุ่นใด มีปัจจัยความเสี่ยงจำนวนมากใน 17 รายการ วัยรุ่นนั้น สมควรได้รับการประเมินอย่างละเอียดถี่ถ้วน พร้อมจุดมุ่งเน้นในเรื่องการรักษา (Intervention) หรือช่วยเหลือวัยรุ่นนั้น เพื่อลดความเสี่ยงลง
อย่างไรก็ตาม มี “รูปลักษณ์เฉพาะ” (Profile) หนึ่งที่ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าใดนัก นั่นคือความแตกต่างทางเพศ เนื่องจากในการยิงกันในโรงเรียนเกือบทุกกรณีนั้น ฆาตกรเป็นหนุ่มวัยรุ่น แต่ก็มีการบันทึกของสาววัยรุ่นที่ก่อความรุนแรงด้วยการใช้ปืนยิงถึง 3 ราย รวมทั้ง ลอรี่ แดน วัสเซ่อร์แมน (Laurie Dann Wasserman) ซึ่งได้ฆ่านักเรียน 1 คน และทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บอีก 6 คน ณ โรงเรียนประถมศึกษา (Elementary School) ในเมืองวินเน็ตกา (Winnetka) รัฐอิลลินอยส์ ก่อนที่จะยิงตัวตายตามไป
แหล่งข้อมูล
- Shaffer David R. and Katherine Kipp (2010). Developmental Psychology : Childhood & Adolescence (8th Ed). Belmont, CA: Wadsworth-Cengage Learning.
- School shooting - http://en.wikipedia.org/wiki/School_shooting [2015, April 7].