จอตาเสื่อม RP (ตอนที่ 3 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 18 มีนาคม 2561
- Tweet
การตรวจวินิฉัยโรค RP ทำได้ด้วย
- เครื่อง Ophthalmoscope – โดยการหยอดยาขยายรูม่านตาเพื่อดูจอตา กรณีที่เป็นโรค RP จะพบจุดดำอยู่ที่จอตา
- การวัดลานสายตา (Visual field test) – เป็นการตรวจความกว้างของการมองเห็นเมื่อตามองตรงมาข้างหน้า ไม่มีการกลอกไปมองหรือหันหน้าไปมอง
- เครื่อง Electroretinogram (ERG) – เป็นการตรวจการทำงานของจอตาที่สนองตอบต่อแสง
- การตรวจทางพันธุกรรม (Genetic test) จากตัวอย่างเลือดหรือตัวอย่างเนื้อเยื่อv
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีรักษาโรค RP มีเพียงการช่วยชะลอการสูญเสียการมองเห็น ซึ่งอาจจะมองเห็นได้บางส่วนด้วยการให้ยา
- Acetazolamide เพื่อลดอาการบวมของจอตา (Macular edema) เพื่อทำให้มองเห็นได้
- Vitamin A palmitate เพื่อชะลออาการของโรค RP แต่ก็ต้องระวัง เนื่องจากการใช้ในปริมาณที่มาณอาจทำให้เกิดความเป็นพิษได้
- Docosahexaenoic acid (DHA)
- Calcium channel blockers
- Lutein และ zeaxanthin
- Valproic acid
ส่วนยาที่ต้องระวังในผู้ป่วยโรค RP เพราะอาจทำให้อาการแย่ลง ได้แก่
- Isotretinoin ที่ใช้ในการรักษาสิว
- Sildenafil (Viagra)
- Vitamin E
นอกจากนี้ยังมี
- การสวมแว่นตา เพื่อลดความไวต่อแสงและป้องกันตาจากการถูกทำลายจากแสงอัลตราไวโอเล็ตซึ่งเป็นการเร่งให้ตาสูญเสียการมองเห็นเร็วขึ้น
- การใส่ตาเทียมด้วยการผ่าตัดฝังไมโครชิป (retinal implant) ไว้ที่เรตินาในลูกตา ใช้กล้องวิดีโอที่ติดไว้กับแว่นตา ส่งสัญญาณภาพไปยังไมโครชิป ที่เชื่อมกับเรตินาที่เสื่อม ทำหน้าที่แปลงแสงให้เป็นสารเคมีที่ไปกระตุ้นเซลประสาทในการเห็นภายในสมองส่วนกลาง
ส่วนการรักษาวิธีอื่นที่อยู่ระหว่างการศึกษา ได้แก่
- การเปลี่ยนเซลล์หรือเนื่อเยื่อใหม่
- ยีนบำบัด (Gene therapy) ที่จอตา
แหล่งข้อมูล:
- What Is Retinitis Pigmentosa?. https://www.webmd.com/eye-health/what-is-retinitis-pigmentosa#1 [2018, March 17].
- Retinitis Pigmentosa. https://www.medicinenet.com/retinitis_pigmentosa/article.htm#what_causes_retinitis_pigmentosa [2018, March 17].