คุยกับหมอสมศักดิ์ ตอนเมื่อคุณพบแพทย์ ตอนที่ 8 ชาขาเหลือเกิน

“คุณหมอขา ป้าชาขามากเลยค่ะ เดินได้แค่เสาไฟฟ้าเดียว ก็เดินไม่ไหวแล้ว ช่วยป้าด้วย ป้าต้องทำมาหากิน เลี้ยงลูกๆหลานๆด้วยหลายคน ป้าเครียดหลาย” อาการชาขา เดินไม่ไหว เป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆ และทุกคนที่มาพบหมอ ก็จะบอกว่าตนเองเป็นโรคกระดูกทับเส้น ทานยาแก้ปวดมามากมายแต่ก็ไม่ดีขึ้น ผมเองอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมทุกคนหรือส่วนใหญ่ถึงคิดว่าตนเองเป็นโรคกระดูกทับเส้น พอสอบถามรายละเอียดการเจ็บป่วย ก็พบปัญหาเดิมๆ คือ ไม่สามารถบอกรายละเอียดได้เพียงพอต่อการวินิจฉัย จึงเป็นที่มาของการบอกกล่าวเรื่องนี้

  1. อาการชาขาเป็นมานานเท่าไหร่
  2. อาการชาขานั้นเป็นส่วนไหนของขา เช่น น่อง ด้านในของต้นขา ด้านนอกของต้นขา หรือที่เท้า
  3. อาการชาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นขึ้นมาทันทีอย่างรวดเร็ว หรือค่อยๆเป็นมากขึ้น
  4. อาการชาที่เกิดขึ้นนั้นมีอาการอื่นๆร่วมด้วยหรือไม่ เช่น ปวดขา อ่อนแรงขา หนีบรองเท้าไม่ได้ เดินเซ ปัสสาวะลำบาก
  5. อาการชาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมากขณะที่ทำกิจกรรม เช่น เดิน วิ่ง ยกของ หรือเป็นมากตอนนอน นั่งนานๆ
  6. อาการชาที่เกิดขึ้นนั้นเป็นมากขึ้นตลอดเวลาหรือคงที่ หรือดีขึ้นแล้ว
  7. อาการชานั้นเป็นตลอดเวลาหรือไม่เป็นมากช่วงเวลาไหนของวัน
  8. เคยประสบอุบัติเหตุที่หลัง สะโพก ขาหรือไม่
  9. โรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไตเสื่อม/โรคไต เป็นต้น
  10. มีอาการผิดปกติ เช่น ขนร่วง เย็นที่น่อง เท้าหรือไม่
  11. มีความผิดปกติอื่น เช่น ปัสสาวะไม่สะดวก ขับถ่ายลำบาก ความรู้สึกทางเพศลดลง
  12. อาการชาที่เกิดขึ้นนั้นถ้าเป็นมากเวลาเดิน พักแล้วดีขึ้นหรือเปล่า ถ้าพักแล้วดีขึ้นต้องพักนานแค่ไหน เพียงแค่ไม่กี่นาที หรือเป็นสิบๆนาที
  13. มีอาการปวด เสียวจากหลังร้าวมาที่ขาหรือไม่
  14. มีอาการกล้ามเนื้อเกร็งกระตุก ตะคริวหรือไม่
  15. ยาที่ทานเป็นประจำ

จะเห็นได้ว่าอาการผิดปกติต่างๆ ที่หมอต้องการทราบนั้น ก็เป็นอาการที่อาจพบร่วมกับอาการชาที่ขาได้ และมีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยแยกโรคว่า สาเหตุของอาการชาขานั้นเกิดจากอะไร เพื่อที่จะให้การรักษาได้ถูกต้อง ดังนั้นความพร้อมในการพบแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งครับ