ความไม่เท่าเทียมกันของน้ำในหู (ตอนที่ 5 และตอนจบ)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 6 ตุลาคม 2557
- Tweet
วิธีการใช้ชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดผลกระทบโรคน้ำในหูไม่เท่ากันได้ โดย
- ลงนั่งหรือนอนทันทีเมื่อรู้สึกเวียนศีรษะ (Dizzy) หลีกเลี่ยงการทำสิ่งที่ทำให้อาการแย่ลง เช่น เคลื่อนไหวตัวเร็ว ดูทีวี หรืออ่านหนังสือ
- ถ้าเวียนศีรษะมากควรนอนบนพื้นราบที่ไม่มีการเคลื่อนไหว เช่น พื้น และผู้ป่วยควรมองไปยังวัตถุที่อยู่นิ่ง ไม่เคลื่อนไหว
- ควรพักเมื่อมีอาการ และอย่ารีบร้อนที่จะกลับไปทำกิจกรรมตามปกติ
- ระวังที่จะเสียการทรงตัว เพราะการหกล้มอาจทำให้บาดเจ็บร้ายแรง อาจใช้ไม้เท้าช่วยเดินเมื่อมีการเสียการทรงตัวอยู่บ่อยๆ
- หลีกเลี่ยงการขับรถหรือการอยู่ใกล้เครื่องจักรที่กำลังทำงาน เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุและบาดเจ็บได้
- หลีกเลี่ยงการเดินทางโดยทางเรือ เพราะจะทำให้มีอาการเวียนศีรษะมากขึ้นได้
การเปลี่ยนแปลงเรื่องอาหาร ก็สามารถลดระดับการไหลเวียนของของเหลวในร่างกายและช่วยลดน้ำในหูชั้นใน เช่น
- การแบ่งอาหารเป็นมื้อย่อย (Eat regularly) เพราะอาหารและน้ำดื่มที่กินตลอดวันอาจช่วยให้ร่างกายควบคุมของเหลวในร่างกายได้ กินอาหารในปริมาณเท่ากันทุกมื้อ อาจแบ่งเป็น 5-6 มื้อ ต่อวันแทนที่จะกิน 3 มื้อต่อวัน
- จำกัดปริมาณเกลือ เพราะการกินอาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณเกลือมาก จะทำให้มีการคั่งของของเหลวมาก ทั้งนี้ควรได้รับปริมาณเกลือไม่เกิน 1,500 มิลลิกรัม ต่อวัน
- หลีกเลี่ยงผงชูรส (Monosodium glutamate = MSG) เพราะผงชูรสทำให้เกิดการคั่งของของเหลวด้วยเหมือนกัน
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีคาเฟอีน เช่น ช็อคโกแลต กาแฟ ชา และน้ำอัดลม ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นและทำให้อาการแย่ลง อย่างคาเฟอีนอาจทำให้เสียงในหู (Tinnitus) ดังมากขึ้น
นอกจากนี้แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนการใช้ชีวิตเพื่อป้องกันอาการตอนเริ่มแรก เช่น
- หยุดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงนิโคตินที่ทำให้อาการแย่ลง
- หลีกเลี่ยงความเครียดและความวิตกกังวล เพราะจะทำให้อาการของผู้ป่วยโรคนี้แย่ลง เนื่องจากจะไปลดเลือดที่ไปเลี้ยงหูชั้นใน
- หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้ (Avoid allergens) เพราะภูมิแพ้จะทำให้อาการแย่ลง
- ป้องกันไม่ให้เกิดไมเกรน ซึ่งอาจจะช่วยลดความรุนแรงของอาการน้ำในหูไม่เท่ากันได้
- ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มเลือดไปเลี้ยงหูชั้นใน
แหล่งข้อมูล
1. Meniere's disease. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/menieres-disease/basics/definition/con-20028251 [2014, October 6].