ลมชักฉันรักเธอ ภาค2: น้องออยทำได้ (ตอนสุดท้ายของภาค2)

ลมชักฉันรักเธอ2

ขณะนี้ หนูกำลังนั่งรถบัส จากโตเกียวไปเมืองคาวากุชิโกะ

หนูมาอยู่ที่ญี่ปุ่นอีกรอบแล้วค่ะ คราวนี้มาเยี่ยมน้องชายอีกตามเคย เลยถือโอกาสมาเที่ยวพักผ่อน หลังจากสอบแก้ และสอบ NL2 เสร็จ

เมื่อวันก่อนเพิ่งประกาศผลสอบไปค่ะ หนูสอบผ่านทั้งสองอย่างแล้วนะคะ สิ่งที่หนูได้พยายามทำมาตลอด มันก็ทำให้หนูประสบความสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ และที่น่ายินดีอีกอย่างคือ อาการชักของหนูน้อยลง ตอนสอบแก้ อาจารย์ที่นั่งคุมสอบ บอกว่าหนูไม่มีอาการชักให้เห็นเลย และตั้งแต่มาเที่ยวญี่ปุ่นได้หกวัน ทั้งเพื่อนและน้องที่มาเที่ยวด้วยกันก็ไม่เคยทักว่าหนูเหม่อลอย หรือทำอะไรโดยไม่รู้สึกตัวเลยค่ะ

ในวันที่ชีวิตเจอแต่ความสุขเราก็ต้องคิดไว้เสมอ ว่าวันหนึ่งจะมีความทุกข์เข้ามาในชีวิตได้ เราต้องเตรียมตัวรับมือกับทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเจอเรื่องดีหรือร้าย เรื่องเหล่านั้นคือสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป

หลังจากกลับเมืองไทย อีกไม่นานก็เปิดเทอมแล้ว หนูกำลังจะเป็น extern ในที่สุดก็มาถึงการเรียนแพทย์ปีสุดท้ายแล้ว หนูคงจะต้องเป็นผู้ใหญ่ให้มากขึ้นอีกขึ้น ที่ผ่านมาก็ดีขึ้นในระดับหนึ่ง คือหนูยอมรับในสิ่งที่เป็น รู้เท่าทันความรู้สึกตัวเอง และเข้าใจในสิ่งที่เกิดมากขึ้น ปล่อยว่างมันได้ และแก้ปัญหาได้ดีขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตและอุปสรรคทั้งหลาย มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นเพื่อทดสอบกำลังกายและกำลังใจของเรา เมื่อผ่านมันไปได้ เราก็จะเข้มแข็งขึ้น

จะว่าไปที่จริงหนูก็กังวลอยู่ค่ะ เพราะการเป็น extern ต้องทำงานหนักและอดนอน อาจจะทำให้ชักได้ แต่นั่นคือเรื่องของอนาคต ตอนนี้มันยังไม่เกิด จะคิดมากไปทำไมกัน หนูคิดว่าเมื่อถึงตอนนั้นแล้ว หนูคงจะหาทางแก้ปัญหาได้ และหนูเชื่อว่ามีอีกหลายคนพร้อมจะช่วยเหลือหนูจนผ่านพ้นทุกอย่างไปได้

ยิ่งยากยิ่งท้าทาย ยิ่งผ่านมันได้ยิ่งเก่ง ไม่ว่ามันจะลำบากแค่ไหน หนูก็พร้อมจะสู้ เพื่อให้หนูได้เป็นหมอที่ดีค่ะ

ข้อคิดเห็นจากหมอสมศักดิ์

น้องออยเป็น extern แล้ว ผมจำได้วันที่น้องออยได้ใส่ชุด extern วันแรก เป็นวันที่น้องออยและครอบครัวมีความสุข ผมเองก็มีความสุขครับที่ได้เห็นนักศึกษาแพทย์ที่เราได้ดูแลมาแบบนักศึกษาแพทย์ และแบบผู้ป่วยคนหนึ่ง ถึงแม้บางครั้งจะดื้อ จะไม่เชื่อฟังหมอบ้าง แต่มันก็เป็นเรื่องปกติ

การที่น้องออยเตรียมพร้อมในการเป็น extern หรือนักศึกษาแพทย์ชั้นปีสุดท้ายนั้น เป็นเรื่องที่ต้องรอลุ้น และให้กำลังใจอย่างมากครับ เพราะการเป็น extern นั้นต้องทำงานหนักมากๆๆๆ บางครั้งอาจต้องทำงานต่อเนื่อง 36 ชั่วโมงครับ โดยไม่ต้องนอนเลย ผมก็ยังเชื่อว่าน้องออยจะต้องผ่านเหตุการณ์แบบนี้ได้แน่นอน

ผมเคยบอกน้องออยว่า “ออยหนูต้องสู้ ถ้าจะชักก็ให้มาชักต่อหน้าอาจารย์ที่หอผู้ป่วยเลย” เรียกว่าสู้กันให้ถึงที่สุด ถ้าเราจะแพ้ก็ให้มันรู้ไป แต่ผมก็แอบหวังลึก ๆในใจว่า น้องออยคงไม่มาชักที่หอผู้ป่วยหรอกครับ เพราะตอนนี้น้องออยดีขึ้นมากๆ โดยเฉพาะความคิด การยอมรับต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้ หรือพูดง่ายๆว่าเข็มแข็งทั้งกายและใจ เมื่อเราพร้อม ทุกอย่างก็ต้องผ่านไปด้วยดีครับ

โชคดีครับ extern น้องออย