ทำไมจึงด่างขาว ? (ตอนที่ 3)
- โดย วันทนีย์ โลหะประกิตกุล
- 9 กรกฎาคม 2558
- Tweet
เราไม่สามารถพยากรณ์ว่าโรคจะพัฒนาไปอย่างไร บางกรณีโรคก็หยุดเองโดยไม่ได้รักษา แต่ส่วนมากจะสูญเสียสีผิวไป และยากที่จะกลับมามีสีเหมือนเดิม
โรคด่างขาวไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงการหยุดยั้งหรือทำให้ขั้นตอนการเปลี่ยนสีเกิดช้าลงเท่านั้น
คนที่เป็นโรคด่างขาวอาจมีความเสี่ยงสูงในการมี
- ความกดดันทางสังคมหรือทางจิตใจ (Social or psychological distress)
- อาการไหม้แดด (Sunburn) และมะเร็งผิวหนัง
- ปัญหาเกี่ยวกับตา เช่น การอักเสบของม่านตา(Iritis)
- สูญเสียการได้ยิน
- ผลข้างเคียงจากการรักษา เช่น ผิวแห้ง คัน เป็นต้น
นอกจากการสอบถามประวัติครอบครัวและการตรวจผิวแล้ว แพทย์อาจทำการตรวจและวินิจฉัยโรคโดยการ
- นำชิ้นเนื้อตัวอย่างไปตรวจ (Biopsy)
- ตรวจเลือด
- นอกจากนี้อาจแนะนำให้ไปพบแพทย์เฉพาะทาง เช่น จักษุแพทย์ (Ophthalmologist) ที่ตรวจการอักเสบของม่านตา (Uveitis) และนักตรวจการได้ยิน (Audiologist) ที่ตรวจการสูญเสียการได้ยิน
ทางเลือกในการการรักษาขึ้นกับ
- จำนวนด่างขาวที่เกิด (Number)
- บริเวณหรือวงกว้างที่เป็น (Widespread)
- ความพอใจของผู้ป่วยในการเลือกวิธี
มีหลายวิธีในการพยายามทำให้สีผิวคืนกลับมา แต่ผลอาจแตกต่างกันไปและคาดการณ์ไม่ได้ การรักษาบางวิธีก็ทำให้เกิดผลข้างเคียง และอาจใช้เวลาเป็นเดือนในการรู้ผล
ปัจจุบันยังไม่มียาตัวใดที่หยุดยั้งโรคด่างขาวได้อย่างแท้จริง แต่การใช้ยาบางชนิดเดี่ยวๆ หรือใช้ร่วมกับการรักษาด้วยแสงก็สามารถช่วยให้สีผิวดูดีขึ้น โดยวิธีที่ใช้อาจได้แก่
- ยาสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอก (Topical corticosteroid) เพื่อให้สีผิวกลับคืน ใช้ระยะเวลาหลายเดือนและใช้ได้ผลดีกับโรคในระยะแรก แต่มีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวบางหรือผิวมีริ้วลาย
- Calcipotriene เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินดี สามารถใช้กับยาสเตียรอยด์ชนิดทาภายนอกหรือแสงอัลตราไวโอเล็ต มีผลข้างเคียงที่ทำให้ผิวแห้ง เป็นผื่น และคัน
- Vitiligo. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/vitiligo/basics/definition/con-20032007 [2015, July 8]. Vitiligo. http://www.niams.nih.gov/health_info/vitiligo/vitiligo_ff.asp [2015, July 8]. Vitiligo. http://www.niams.nih.gov/health_info/vitiligo/ [2015, July 8].
