การมองเห็นผิดปกติเหตุไมเกรน หรือ ออคคิวลาร์ไมเกรน (Ocular migraine)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

ผมได้รับคำถามจากผู้อ่านทางบ้านมาหลายท่านที่มีอาการมองเห็นผิดปกติ เป็นๆหายๆ คือ มีอาการตามัวลง หรือเห็นแสงเหมือนแฟลซในลูกตา เป็นอยู่ไม่นานก็หายได้เอง บางคนก็มีอาการ ปวดหัวตามมาภายหลัง บางคนก็ไม่มีอาการปวดศีรษะ ทุกคนที่มีอาการดังกล่าวจะตก ใจมาก เพราะว่ามีอาการผิดปกติของการมองเห็น กลัวว่าจะตาบอดหรือไม่ กลัวว่าจะเป็นอัมพาตหรือไม่ แล้วมันเป็นอะไรกันแน่ เราลองมาหาคำตอบจากบทความนี้ครับ

เรียกอาการตามัวลงข้างเดียวแล้วหายเองว่าอย่างไร?

การมองเห็นผิดปกติเหตุไมเกรน

อาการตามัวลงแล้วหายได้เองภายในเวลาไม่นาน เป็นเพียงข้างเดียว บางครั้งก็มีอาการปวดศีรษะตามมา บางครั้งก็ไม่มีอาการปวดศีรษะ เรียกความผิดปกติ/อาการดังกล่าวนี้ว่า “Ocular migraine/ออคคิวลาร์ไมเกรน” หรือ “Retinal migraine/เรตินาไมเกรน” หรือ “Ophthalmic migraine/ออฟทัลมิคไมเกรน” หรือ “Visual migraine/วิสชวลไมเกรน” ถ้าจะเรียกเป็นภาษาไทย (ยังไม่มีบัญญัติชื่อภาษาไทยอย่างเป็นทางการ) ผมไม่มั่นใจแต่คิดว่า น่า จะเรียกว่า “การมองเห็นผิดปกติเหตุไมเกรน” คือ อาการปวดศีรษะไมเกรนที่มีอาการเตือนหรืออาการนำที่เรียกว่า ออรา (Aura) เป็นอาการทางตาคือ การมองเห็นที่ผิดปกติโดยมีหรือไม่มีอา การปวดศีรษะ

ออคคิวลาไมเกรนมีอาการอย่างไร?

อาการการมองเห็นผิดปกติจาก Ocular migraine/ออคคิวลาร์ไมเกรนที่พบได้บ่อยมีดังนี้

1. มองเห็นแสงแฟลซในลูกตา

2. มองเห็นเส้นซิกแซกในลูกตา

3. มองภาพบิดเบี้ยวไปจากปกติ

4. มีจุดมืดในลูกตา

5. เห็นภาพค่อยๆมืดลงหรือกระพริบเหมือนดวงดาวในลูกตา

อนึ่ง อาการทั้งหมดดังกล่าวจะเกิดเป็นกับตาเพียงตาข้างเดียว โดยเราจะรู้ว่าเป็นเพียงข้างเดียวจากลองปิดตาข้างหนึ่ง ถ้าเราปิดตาข้างปกติก็จะมีอาการดังกล่าว แต่ถ้าปิดตาข้างผิด ปกติก็จะไม่มีอาการ

อาการมองเห็นผิดปกตินั้นเป็นนานเท่าไหร่?

อาการมองเห็นผิดปกตินั้นจะเป็นนานประมาณ 10 - 20 นาที โดยจะค่อยๆดีขึ้นได้เอง หรือเมื่ออยู่ในห้องมืด ทั้งนี้อาการมักเป็นไม่นานเกิน 1 ชั่วโมง

นอกจากการมองเห็นผิดปกติแล้วมีอาการอื่นอีกหรือไม่?

บางครั้งอาจมีอาการปวดตา อาเจียน หรือปวดหัว ตามมาภายหลังได้ คล้ายกับในผู้ ป่วยไมเกรนทั่วไปชนิดที่มีอาการนำทางตา

ออคคิวลาร์ไมเกรนเกิดจากสาเหตุใด?

สาเหตุที่แน่ชัดของออคคิวลาร์ไมเกรนยังไม่มีใครทราบแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเกิดจาก 2 กลไกได้แก่

1. การหดตัวผิดปกติของหลอดเลือดที่จอตา

2. การไหลเวียนของเลือดผิดปกติจากมีการหนืดของเลือด (Hyperviscosity) จึงส่งผลให้จอตาทำงานผิดปกติจึงมองเห็นภาพผิดปกติ

ออคคิวลาร์ไมเกรนต้องแยกจากอาการผิดปกติอื่นอะไรอีกบ้าง?

อาการผิดปกติที่มีอาการคล้ายๆกันที่ต้องแยกจากออคคิวลาร์ไมเกรนคือ

1. ภาวะขาดเลือดมาเลี้ยงหลอดเลือดที่ตาชั่วคราว (Amaurosis fugax)

2. โรคหลอดเลือดขมับอักเสบ (Temporal cell arteritis)

3. อาการมองเห็นชนิดลานสายตาผิดปกติจากมีรอยโรคในสมอง (Visual field defect ชนิด Hemianopia) เช่น เนื้องอกสมอง/ มะเร็งสมอง

4. ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง (Increased intracranial pressure)

5. การอุดตันหลอดเลือดตาจากลิ่มเลือดขนาดเล็กๆ (Embolism)

ออคคิวลาร์ไมเกรนต่างกับปวดศีรษะไมเกรนชนิดมีอาการนำทางตาอย่างไร?

อาการจากออคคิวลาร์ไมเกรนนั้นจะมีอาการทางตาเพียงข้างเดียว (แต่ถ้าเป็นไมเกรนทั่ว ไปจะมีอาการทั้ง 2 ตา) แล้วจึงตามด้วยอาการปวดศีรษะ แต่ถ้าเป็นไมเกรนทั่วไปชนิดมีแค่อา การนำที่ไม่มีอาการปวดศีรษะ (Aura without headache) ก็แยกกันยากมาก

ใครมีโอกาส/ปัจจัยเสี่ยงเกิดออคคิวลาร์ไมเกรน?

ผู้มีโอกาส/ปัจจัยเสี่ยงเกิดออคคิวลาร์ไมเกรนได้แก่

1. ผู้หญิง

2. กลุ่มอายุน้อยกว่า 40 ปี

3. คนที่มีประวัติปวดศีรษะไมเกรน

4. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคลูปัส-โรคเอสแอลอี, ภาวะ/โรคเลือดหนืด เป็นต้น

พบออคคิวลาร์ไมเกรนบ่อยไหม?

ออคคิวลาร์ไมเกรนเป็นภาวะ/อาการที่พบได้ไม่บ่อยคือ ประมาณ 1 ใน 200 คนของผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนทั่วไป แต่อุบัติการณ์จริงๆของอาการนี้ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด

อะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการ?

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดออคคิวลาร์ไมเกรนที่พบได้คือ

1. ความเครียด

2. การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3. การออกกำลังกายอย่างหนัก

4. ความดันโลหิตที่สูงมาก

5. ทานยาเม็ดคุมกำเนิดนานหลายปี

6. การงอคอ/ก้มคอมากๆ การกดนวดหรือบิดหมุนคอ ที่ส่งผลต่อหลอดเลือดบริเวณคอ

7. ผู้อยู่ในที่สูงๆนานๆ

8. ภาวะอดอาหารที่ทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ

9. มีภาวะขาดน้ำ

ออคคิวลาร์ไมเกรนอันตรายไหม?

ถ้าอาการที่เกิดขึ้นเป็นอาการของออคคิวลาร์ไมเกรน จะเป็นอาการที่ไม่มีอันตราย อาการจะหายได้เองดังได้กล่าวแล้วในหัวข้อ อาการเป็นนานเท่าไร

ควรพบแพทย์เมื่อไร?

เมื่อมีอาการดังกล่าวในหัวข้อ อาการ โดยเป็นกรณีเป็นความผิดปกติครั้งแรกนั้น ต้องรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล เพราะมีกลุ่มอาการหรือสาเหตุร้ายแรงที่ต้องรีบหาสาเหตุและให้การรักษา (ดังกล่าวแล้วในหัวข้อ ต้องแยกจากโรคอะไร)

แต่ถ้าเคยพบแพทย์จากมีอาการเหล่านี้และตรวจหาสาเหตุแล้วว่า ไม่มีสาเหตุจากภาวะอื่นๆ เป็นจากออคคิวลาร์ไมเกรน ก็ไม่ต้องรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล ยกเว้นจะมีอาการผิด ปกติอย่างอื่นๆเกิดร่วมด้วย และ/หรืออาการที่เกิดขึ้นไม่หายได้เองภายในระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ควรรีบพบแพทย์/ไปโรงพยาบาล

แพทย์วินิจฉัยออคคิวลาร์ไมเกรนอย่างไร?

การตรวจ/การวินิจฉัยว่าเป็นออคคิวลาร์ไมเกรนคือ การสอบถามข้อมูลประวัติอาการว่ามีอาการที่เข้าได้กับภาวะ/อาการออคคิวลาร์ไมเกรนนี้หรือไม่ และไม่มีอาการผิดปกติของกลุ่มอา การอื่นๆที่ต้องแยกออกจากกัน (ดังกล่าวแล้วในหัวข้อ การแยกโรค) ร่วมกับการตรวจร่างกาย ทั้งระบบทั่วไป และการตรวจร่างกายทางระบบประสาท ที่ไม่พบความผิดปกติใดๆ การตรวจฟังเสียงหลอดเลือดบริเวณด้านข้างของคอ (Carotid artery) ด้วยหูฟัง ตรวจคลำหลอดเลือดบริเวณขมับ (Temporal artery) อาจพิจารณาส่งตรวจเลือดในบางรายที่สงสัยการอักเสบของหลอดเลือด (หลอดเลือดอักเสบ) อาจมีการตรวจตาร่วมด้วยจากจักษุแพทย์ และโดยส่วนมากแล้วไม่จำเป็นต้องส่งตรวจ/การตรวจเพื่อการสืบค้นเพิ่มเติมอะไร

การรักษาออคคิวลาร์ไมเกรนทำอย่างไร?

การรักษาออคคิวลาร์ไมเกรนก็เป็นไปตามกลไกการเกิดโรคคือ การให้ยา

1. แอสไพริน เพื่อลดการหนืดตัวของเลือด (ยาต้านเกล็ดเลือด) ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น

2. ยาที่มีฤทธิ์ไม่ให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือดคือ ยาต้านแคลเซียม (Calcium channel blocker) เช่น ยาไนเฟ็ดดิปีน (Nifedipine)

3. ยาป้องกันอาการปวดศีรษะไมเกรน

ออคคิวลาร์ไมเกรนเป็นปัจจัยเสี่ยงเกิดโรคอัมพาตหรือไม่?

ออคคิวลาร์ไมเกรนไม่เป็นปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคอัมพาตหรือโรคหลอดเลือดสมอง และยังไม่เคยมีรายงานว่าออคคิวลาร์ไมเกรนเป็นปัจจัยเสี่ยงให้ตาบอด

ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไหร่?

ผู้ที่มีอาการของออคคิวลาร์ไมเกรน ถ้ามีอาการทางตานานกว่าที่ควรจะเป็นเช่น นานมาก กว่า 1 ชั่วโมงแล้วไม่หาย หรือมีอาการปวดศีรษะรุนแรงมาก หรือปวดหัวนานมากกว่า 72 ชั่ว โมงกรณีไม่ได้ทานยา หรือถ้าทานยาแก้ปวดแล้วไม่ตอบสนองต่อยาที่ทาน หรือมีอาการแขน -ขาอ่อนแรงควรรีบพบแพทย์/รีบไปโรงพยาบาล

ออคคิวลาร์ไมเกรนรักษาหายหรือไม่?

ออคคิวลาร์ไมเกรนสามารถรักษาหายได้ด้วยการทานยารักษาข้างต้น

ดูแลตนเองและป้องกันออคคิวลาร์ไมเกรนอย่างไร?

เมื่อเคยมีอาการของออคคิวลาไมเกรน อาการอาจเกิดเป็นซ้ำได้อีก ซึ่งการดูแลตนเองและ การป้องกันการเกิดออคคิวลาร์ไมเกรนจะเช่นเดียวกันคือ การหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ได้กล่าวแล้วในหัวข้อ ปัจจัยกระตุ้นการเกิด ซึ่งที่สำคัญได้แก่

  • ปฏิบัติตามแพทย์พยาบาลแนะนำ
  • กินยาที่แพทย์สั่งให้ครบถ้วน ไม่ขาดยา
  • รักษาควบคุมโรคไมเกรนให้ได้ดี
  • ควบคุมรักษาโรคประจำตัวอื่นๆให้ได้ดี
  • รักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต ไม่เครียด
  • ไม่สูบบุหรี่ เลี่ยงควันบุหรี่
  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ไม่ออกกำลังกายหักโหม
  • ไม่ขึ้นไปอยู่ในที่สูงๆ
  • ดื่มน้ำสะอาดให้พอเพียงไม่ให้เกิดภาวะขาดน้ำ
  • ไม่อดอาหารจนเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มมีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ โคล่า
  • สังเกตเสมอว่า กิน (รวมถึงอาหารและทุกอย่างที่บริโภค) ดื่มอะไรแล้วเกิดอาการ ให้หลีกเลี่ยงสิ่งนั้นๆ
  • พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลตามนัดเสมอ
  • พบแพทย์/ไปโรงพยาบาลก่อนนัดเมื่อมีอาการผิดปกติต่างๆเช่นที่ได้กล่าวแล้วในหัวข้อ การพบแพทย์ก่อนนัด

* ท้ายสุดนี้ ผมหวังว่าท่านผู้อ่านจะมีความสบายใจขึ้นถ้ามีอาการผิดปกติดังกล่าว