กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืด หรือ กลุ่มอาการเอมพีเอส Myofascial Pain Syndrome (MPS)

สารบัญ บทความที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

“ปวดหลังมากเลยครับ คุณหมอครับ ผมจะเป็นโรคไตหรือไม่” ผมเชื่อว่าทุกวันที่แพทย์ออกตรวจผู้ป่วย ต้องพบผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังมาหา และผู้ป่วยก็มีความวิตกกังวล กลัวจะเป็นโรคโน่นโรคนี้ต่างๆ นานา เช่น โรคไต โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท (ปวดหลัง:ปวดหลังจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลัง) โรคกระดูกพรุน และต้องการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ แม่เหล็กไฟฟ้า (เอมอาร์ไอ) และอื่นๆ อีกมากมาย ยิ่งทำให้แพทย์และผู้ป่วยสับสนมากยิ่งขึ้นว่าเป็นโรคอะไรกันแน่ที่ทำให้ปวดหลัง

ลองติดตามบทความนี้กันครับ ท่านจะเข้าใจ “โรคหรือกลุ่มอาการปวดกล้ามและเนื้อเยื่อพังผืด (Myofascial pain syndrome ย่อว่า MPS)” หรือเรียกย่อว่า “โรคหรือกลุ่มอาการเอมพีเอส” มากขึ้น และอาการปวดเมื่อยก็จะไม่ใช่เรื่องยากต่อไป ถ้าท่านเข้าใจเรื่องดังกล่าว

กลุ่มอาการเอมพีเอสคืออะไร?มีสาเหตุจากอะไร?

กลุ่มอาการเอมพีเอส

โรคหรือกลุ่มอาการ เอมพีเอส คือ กลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อพังผืด โดยเป็นกลุ่มอาการปวดร้าว (Referred pain) และ/หรืออาการของระบบประสาทอัตโนมัติ เนื่องจากมีจุดปวด/จุดกดเจ็บ (Trigger point) ที่กล้ามเนื้อหรือเนื้อเยื่อพังผืด โดยพบร่วมกับภาวะกล้ามเนื้อหดตัว (Muscle spasm)

กลุ่มอาการเอมพีเอส เป็นสาเหตุที่พบบ่อยมากของการปวดส่วนต่างๆของร่างกาย และน่าจะเป็นสาเหตุอาการปวดจากระบบกระดูกและกล้ามเนื้อในผู้ป่วยที่ปวดเรื้อรังมากที่สุด

กลุ่มอาการเอมพีเอส พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง พบสูงในช่วงอายุ 31-50 ปี พบในผู้ทำงานที่ต้องอยู่ในท่าใดท่าหนึ่งนานๆ เช่น พนักงานสำนักงาน หรือผู้ใช้แรงงาน

สาเหตุพบบ่อยที่ก่อให้เกิดกลุ่มอาการเอมพีเอส คือ การใช้กล้ามเนื้อมัดที่เกิดอาการ ผิดท่าทาง ซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานๆ และต่อเนื่อง จนเกิดความผิดปกติในการหดตัวของกล้ามเนื้อตำแหน่งนั้นขึ้น

อะไรเป็นปัจจัยกระตุ้นให้เกิดกลุ่มอาการเอมพีเอสขึ้น?

ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดอาการปวดในกลุ่มอาการเอมพีเอส หรือที่ทำให้อาการรุนแรงขึ้น ที่พบบ่อย คือ

  • การใช้กล้ามเนื้ออย่างหนัก ใช้นานและต่อเนื่อง ซ้ำๆ โดยไม่พัก
  • และการใช้กล้ามเนื้อนั้นในท่าที่ไม่เหมาะสม
  • รู้สึกไม่สบาย (เจ็บ/ปวดกล้ามเนื้อ)และยังฝืนทำงานต่อ ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อมีการหดตัวอย่างต่อเนื่อง และเกิดการสะสมและคั่งค้างของของเสียในกล้ามเนื้อ จึงส่งผลทำให้มีอาการปวดกล้ามเนื้อมากขึ้น
  • ร่วมกับ
    • ความเครียด
    • และ/หรือ การพักผ่อนไม่เพียงพอ

กลไกการเกิดกลุ่มอาการเอมพีเอสคืออะไร?

สมติฐานเชื่อว่า เกิดจากการที่กล้ามเนื้ออยู่ในภาวะทำงานหนักมาก (Overload) เป็นเวลานานจนทำให้กล้ามเนื้อทำหน้าที่ผิดปกติ โดยกล้ามเนื้อมีการหดตัวเป็นเวลานาน (Self-sustained contraction) จนกล้ามเนื้อขาดพลังงาน ทำให้มีการคั่งของของเสียต่างๆ จึงทำให้เกิดอาการปวดเกิดขึ้น และยังเชื่อว่า อาจมีความผิดปกติในไขสันหลังร่วมด้วย

อาการปวดจากกลุ่มอาการเอมพีเอสมีลักษณะอย่างไร?

อาการปวดจากกลุ่มอาการเอมพีเอสมีลักษณะหรือรูปแบบการปวด ดังนี้

  • ปวดตื้อๆ ลึกๆ (Deep dull aching) เช่น ปวดบริเวณสะบัก จะปวดคล้ายสะบักจม
  • ปวดร้าว (Referred pain) อาการปวดของกล้ามเนื้อแต่ละตำแหน่งจะมีลักษณะเฉพาะ เช่น โรคเกิดที่กล้ามเนื้อหลังมัดที่ชื่อว่า Trapezius (โดยเฉพาะในบริเวณส่วนตอนต้นๆของกล้ามเนื้อ) จะปวดบริเวณก้านคอ ขมับ กรามล่าง และครอบคลุมถึงบริเวณศีรษะ เป็นต้น
  • ความรุนแรงองอาการ มีได้ตั้งแต่ปวดเมื่อยน่ารำคาญ จนถึงปวดรุนแรง
  • เวลาที่ปวด มีทั้งปวดตลอดเวลา หรือ ปวดเฉพาะเวลาใช้งาน
  • ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปที่เกิดร่วมกับอาการปวด เช่น ชาที่ผิวหนัง แต่เป็นเพียงความรู้สึก โดยแพทย์จะตรวจไม่พบความผิดปกติเหล่านี้
  • อุณหภูมิที่ผิวหนังบริเวณปวดจะเย็นลง ผู้ป่วยจะรู้สึกว่ามือเท้าเย็น เหมือนเลือดไหลเวียนไม่ดี
  • อาจมีอาการ คัดจมูก น้ำตาเอ่อ ตาแดง วิงเวียนศีรษะ เวลามีการเคลื่อนไหวของคอและศีรษะ

อนึ่ง กลุ่มอาการเอมพีเอส มีทั้ง ปวดแบบเฉียบพลันและเรื้อรัง คือ

  • กลุ่มเฉียบพลันจะปวดมานานไม่เกิน 2 เดือน
  • กลุ่มกึ่งเฉียบพลัน อาการจะเป็นมาประมาณ2-6 เดือน
  • และกลุ่มเรื้อรัง อาการมักเกิดนานมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป

เมื่อมีกลุ่มอาการเอมพีเอสควรพบแพทย์เมื่อไร?

เมื่อมีอาการในกลุ่มอาการเอมพีเอสดังกล่าวแล้วในหัวข้อ ‘อาการฯ’ ที่ควรพบแพทย์/มาโรงพยาบาลเพื่อให้ได้รับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุของอาการและให้การรักษาที่เหมาะสมต่อไป ได้แก่

  • อาการที่รบกวนต่อการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาการที่ส่งผลต่อการทำงานและการเคลื่อนไหว
  • และ/หรือ อาการที่ทำให้นอนไม่ได้
  • และ/หรือ อาการที่ต้องใช้ยาแก้ปวดเป็นประจำ

แพทย์วินิจฉัยกลุ่มอาการเอมพีเอสได้อย่างไร?

แพทย์วินิจฉัยกลุ่มอาการเอมพีเอส โดยพิจารณาจาก

  • ประวัติที่มีอาการปวดเข้าได้กับอาการดังกล่าวแล้วในหัวข้อ อาการ
  • ร่วมกับตรวจพบ จุดปวด/กดเจ็บ (Trigger point) และไตแข็งที่เกิดจากการหดแข็งตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อ ในแนวเริ่มจากจุดปวดไปจนถึงตำแหน่งปลายของกล้ามเนื้อมัดนั้น (Taut band) โดยไม่พบสาเหตุอื่นๆที่ทำให้ทำให้มีอาการปวด
  • ซึ่งทั่วไปแล้วไม่จำเป็นต้องส่งตรวจเอกซเรย์ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ เอมอาร์ไอ หรือ เจาะตรวจเลือดเพิ่มเติม

กลุ่มอาการใดที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มอาการเอมพีเอสบ้าง?

กลุ่มอาการอื่นๆที่ต้องแยกออกจากกลุ่มอาการเอมพีเอส คือ

  • โรคไฟโบรมัยอัลเจีย (Fibromyalgia)
  • โรคพีเอมอาร์ (Polymyalgia rheumatic ย่อว่า โรคพีเอมอาร์/PMR)
  • กลุ่มอาการความล้าเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome)
  • และกล้ามเนื้ออ่อนแรง (Muscle weakness)จากสาเหตุอื่น เช่น จากพันธุกรรมผิดปกติ (อ่านเพิ่มเติมในบทความเรื่อง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและกระดูก)

การรักษากลุ่มอาการเอมพีเอสทำอย่างไร?

การรักษากลุ่มอาการพีเอมเอส ประกอบด้วย

  • การรักษาเฉพาะที่
  • การค้นหาและแก้ไขปัจจัยเสี่ยง
  • การใช้ยา

1.การรักษาเฉพาะที่ ได้แก่

  • การฉีดยาที่จุดปวด/จุดกดเจ็บ ยาที่ใช้ เช่น ยาชาเฉพาะที่ ยาสเตียรอยด์ ยา โบทูไลนุ่มทอกซิน (Botulinum toxin)
  • การพ่นด้วยความเย็นแล้วยืดกล้ามเนื้อด้วยเทคนิคทางกายภาพบำบัด
  • การนวด
  • การบริหารกล้ามเนื้อ
  • การใช้ความร้อนบำบัด
  • การฝังเข็ม
  • การทำอัลตราซาวด์กล้ามเนื้อ

2. ค้นหาและแก้ไขปัจจัยเสี่ยง ได้แก่ ปัจจัยเชิงกล โรคต่างๆ และปัจจัยทางจิตใจ

  • ปัจจัยเชิงกล เช่น
    • ความบกพร่องของร่างกายทำให้กล้ามเนื้อไม่สมดุล เช่น ขา 2 ข้างไม่เท่ากัน
    • ท่าทางหรือกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งก้มคอและหลัง
    • การทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือก้มๆ เงยๆ ทั้งวัน
    • การออกแรงมากเกินไป หรือนานเกินไป
    • รวมทั้งการกดรัดกล้ามเนื้อตลอดเวลา เช่น ใส่เสื้อชั้นในที่มีสายรัดไหล่บ่าแน่นเกินไป
  • โรคต่างๆ เช่น
    • ภาวะ/ โรคซีด
    • ต่อมธัยรอยด์ทำงานต่ำ(ภาวะขาดไทรอยด์ฮอร์โมน)
    • และ ข้อเสื่อม
  • ปัจจัยทางจิตใจ เช่น
    • ความเครียด
    • วิตกกังวล
    • ซึมเศร้า

3. การใช้ยา ได้แก่

  • ยาแก้ปวด
  • ยาคลายกล้ามเนื้อ
  • ยาต้านเศร้า
  • ยาคลายกังวล เป็นต้น

การพยากรณ์โรคของกลุ่มอาการเอมพีเอสเป็นอย่างไร?

การพยากรณ์โรคในกลุ่มอาการเอมพีเอส ดีมาก โอกาสหายสูง ถ้าแก้ไขปัจจัยเสี่ยง ทำกายภาพบำบัด ออกกำลังกาย ยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ ตามแพทย์ พยาบาล และ/หรือ นักกายภาพบำบัดแนะนำ

อนึ่ง กลุ่มอาการเอมพีเอสนี้ ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอาการ อัมพฤกษ์ อัมพาต และไม่ได้เป็นสาเหตุให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต

ผู้ป่วยกลุ่มอาการเอมพีเอสควรดูแลตนเองอย่างไร?ควรพบแพทย์ก่อนนัดเมื่อไร?

ผู้ป่วยด้วยกลุ่มอาการนี้ ควรดูแลตนเองโดย

  • การปรับท่าทางในการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสม
  • ไม่ฝืนทำกิจกรรมต่างๆเป็นเวลานาน
  • ถ้าเริ่มมีอาการปวดเมื่อย ควรหยุดพักการทำกิจกรรมนั้นๆ
  • และควรออกกำลังกาย และบริหารร่างกายโดยการยืดกล้ามเนื้ออย่างสม่ำเสมอ
  • ไม่ควรออกกำลังกายอย่างหักโหม หรือมีการนวดอย่างรุนแรง และผิดวิธีจากผู้ที่ไม่ผ่านการฝึกอบรมการทำกายภาพบำบัด
  • และไม่ควรซื้อยาแก้ปวดมาทานเอง โดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ พยาบาล และ/หรือเภสัชกร ก่อน
  • ทั้งนี้ กรณีที่ควรต้องพบแพทย์/มาโรงพยาบาลก่อนแพทย์นัดเสมอ ได้แก่
    • อาการทรุดลง
    • เจ็บปวดกล้ามเนื้อมากขึ้น
    • เคลื่อนไหวหรือทำกิจกรรมต่างๆลำบากมากขึ้น
    • หรือต้องใช้ยาแก้ปวดมากขึ้น

ป้องกันกลุ่มอาการเอมพีเอสได้อย่างไร?

การป้องกันโรคนี้ทำได้ไม่ยาก เพียงแค่

  • ทำกิจกรรมต่างๆด้วยท่าทางที่เหมาะสม
  • ไม่หักโหมในการทำงาน หรือทำกิจกรรมใดๆต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ยืดกล้ามเนื้อที่มีการใช้งานเป็นประจำ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ