กระดานสุขภาพ
ีรบกวนคุณหมอช่วยตอบหน่อยนะคะ.กังวลใจเครียดมากๆ. ขอบคุณคะ | |
---|---|
18 มกราคม 2557 06:31:38 #1 ประจำเดือนมาล่าสุด 14 ธค. แต่ตอนนี้วันที่ 14 มค ยังไม่มาเลยคะ พอวันที่17 ซื้อที่ตรวจมาแล้วผลออกมาก็ไม่ตั้งท้องคะ. แต่ตอนนี้ประจำเดือนก็ยังไม่มาเลยคะคุณหมอ. - กินยาคุมฉุกเฉินมันทำให้ประจำเดือนเลื่อนจริงๆหรอคะ. - ถ้ากินยาสตรีเบนจะเป็นอะไรมั้ยคะ. |
|
อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 54 กก. ส่วนสูง: 157ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.91 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
19 มกราคม 2557 03:14:16 #2 หากเดิมเป็นคนที่ประจำเดือนมาตรง สม่ำเสมอ การตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะนั้น เชื่อถือได้มากครับ ซึ่งหากตรวจในช่วงที่ประจำเดือนขาดไปแล้ว 1 สัปดาห์ ซึ่ง หมอคิดว่า ไม่ตั้งครรภ์นะครับ ซึ่งประจำเดือนที่ล่าช้า น่าจะมีผลมาจากยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินครับ ซึ่งผลของยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินต่อรอบประจำเดือนนั้น สามารถทำให้ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ กะปริดกะปรอยได้ ซึ่งจะมีปัจจัยหลายอย่างที่มีผล เช่น วันที่ทานอยู่ในช่วงใดของรอบประจำเดือน ลักษณะรอบประจำเดือนเดิมเป็นอย่างไร เป็นต้นครับ ซึ่งยาในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ ได้แก่ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ แต่โดยทั่วๆไป อาจมาช้าได้แต่ไม่ควรเกิน 1 - 2 สัปดาห์ครับ ส่วนเรื่องยาทีกล่าวมานั้น ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ยาในกลุ่มที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธ์ิคล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่นั้น เกิดจากอะไร |
Boon*****u |
19 มกราคม 2557 11:56:48 #3 ขอบเพิ่มเติมนะคะคุณหมอ. แล้วเราควรกินยาอะไรไหมคะเพื่อที่จะให้ทำประจำเดือนของเรามาปกติ.
ขอบคุณคะ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
19 มกราคม 2557 14:31:59 #4 ยังไม่ต้องครับ หมอคิดว่า ให้ลองสังเกตุอาการเรืองประจำเดือนก่อน อย่างที่หมอกล่าวไป อาจเลื่อนได้ 1-2 สัปดาห์ครับ หากยังไม่มาในช่วงที่หมอกล่าวไป ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุครับ |
Boon*****u |
19 มกราคม 2557 14:43:18 #5 # ขอบเพิ่มเติมนะคะคุณหมอ - ถ้ากินยาคุมฉุกเฉิน 2 แผง ภายในเดือนเดียวกันจะส่งให้ประจำเดือนเลื่อนไหมคะแล้วจะส่งผลให้เป็นอะไรไหมคะ ขอบคุณคะ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
23 มกราคม 2557 06:21:01 #6 ปกติแล้วในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ดังนี้
ซึ่งหากทานซ้ำ ซึ่งหมอคิดว่า ไม่ควรจะเกิดขึ้น เนื่องจากว่า การคุมกำเนิดชนิดนี้ ควรจะใช้เมื่อพลาด หรือ ถุงยางอนามัยมีปัญหาเท่านั้น การที่มีการทานอีก นอกจากจะทำให้ประสิทธิภาพลดต่ำลง ยังทำให้มีผลข้างเคียงของยามากขึ้นอีกครับ |
Boon*****u |
23 มกราคม 2557 15:29:57 #7 คุณหมอคะวันที่23 มค ประจำเดือนก็ยังไม่มาเลยคะ. ท้องหรือป่าวคะ |
Boon*****u |
23 มกราคม 2557 16:20:27 #8 ถ้าปรจำเดือนยังไไม่มากินยาสตรีเบนโลได้ไหมคะคุณหมอ |
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล(สูติ-นรีแพทย์) |
26 มกราคม 2557 06:03:48 #9 ประจำเดือนที่ผิดปกติ มาล่าช้านั้น สาเหตุส่วนใหญ่ในช่วงอายุนี้ มักเกิดจากมีสาเหตุบางประการที่ทำให้มีทำให้ไข่ไม่ตก หรือ ตกไม่สม่ำเสมอ เช่น ภาวะเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา นอนดึกติดต่อกัน น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ ซึ่งในกรณี หมอคิดว่า น่าจะเกิดจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับ ส่วนในเรื่องการทานสารบางอย่างที่ต้องการให้ประจำเดือนมานั้น ซึ่งตามความเห็นของหมอแล้ว ในสารกลุ่มนี้ที่กล่าวมานั้นมีตัวยาเป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารที่ออกฤทธ์ิคล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ เนื่องจากมีผลต่อการตกไข่ ทำให้ไม่มีการตกไข่ ซึ่งมีผลต่อทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือ ประจำเดือนเลื่อนออกไปได้ครับ และ อาจยังทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ อาจมาปริมาณมาก กะปริดกะปรอยได้อีกด้วย ดังนั้น ในความเห็นของหมอ หมอคิดว่า ไม่ควรทานยาประเภทนี้นะครับ เพราะ นอกจากจะไม่รักษาที่สาเหตุแล้ว ยังอาจทำให้สับสนได้ว่าความผิดปกติที่เกิดขึ้นใหม่นั้น เกิดจากอะไร และ ไม่สามารถที่จะทำให้ประจำเดือนมาเป็นรอบได้ครับ |
Boon*****u