กระดานสุขภาพ

เรียนปรึกษาคุณหมอค่ะ
Anonymous

14 มกราคม 2557 14:13:44 #1

     เมื่อวันสิ้นปีที่ผ่านมาได้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ(ไม่ได้ป้องกันด้วย) พอเข้าวันที่2 ได้เกิดตุ่มแข็งเล็กๆขึ้น 1เม็ด ทางด้านซ้ายใกล้กับปากช่องคลอด ตอนแรกไม่ได้ติดใจอะไรเพราะคิดว่าอาจจะเป็นสิวที่อวัยวะเพศเฉยๆ แต่พอวันต่อมาเริ่มมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดรวมถึงแคมด้านใน(ที่เป็นติ่งยื่นออกมาค่ะ) โดยเฉพาะช่วงกลางคืน คันมากจนนอนไม่ได้ ยิ่งเกาก็ยิ่งแสบจนน้ำตาร่วงเลยค่ะ แสบอวัยวะเพศไปหมด ถึงขนาดที่ว่าแค่เอามือไม่จับอวัยวะเพศก็รู้สึกเจ็บแสบ ตอนนั้นตกขาวยังปกติอยู่นะคะ

     ทนอยู่ได้ 2วัน พอวันที่3 อาการคันทุเลาลงบ้างแล้ว แต่ก็ไปหาหมอเพื่อความแน่ใจ พอดีหนูอยู่ต่างประเทศ แล้วภาษาของที่นี่ยังไม่แข็งแรงมากนัก จึงไม่สามารถบอกอาการกับแพทย์ได้อย่างชัดเจนเท่าที่ควร เพียงแต่บอกแค่ว่ามีอาการคัน คุณหมอเลยให้ขึ้นขาหยั่งตรวจ แล้วก็เหน็บยามาให้(ยาที่ละลายออกมาเป็นสีม่วงนะคะ เหมือนกับเจนเชียนไวโอเลตเลยค่ะ บอกไม่เป็นอะไรมาก อาทิตย์หน้าจะนัดมาตรวจใหม่ (ลืมถามคุณหมอเรื่องตุ่มข้างช่องคลอดค่ะ)  พอกลับมาถึงอาการเริ่มดีขึ้นบ้าง แต่พอตกกลางคืนคันคะเยอเลยค่ะ คันแบบนอนไม่ได้อีกแล้ว พอรุ่งขึ้นอาบน้ำปกติ แต่ตอนล้างอวัยวะเพศจับโดนตรงตุ่มแล้วรู้สึกว่าตุ่มมันเปลี่ยนไป เลยเอากระจกมาส่องดู ปรากฏว่าตุ่มแข็งๆที่เคยเป็นแตกออก แล้วเป็นแผลคล้ายกับแผลร้อนในในปากเลยค่ะ ลองหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตดู ก็คิดว่าตัวเองอาจจะติดโรคเริมมาก็ได้ วันต่อมาข้างๆแผลคล้ายร้อนในนั้น เริ่มมีตุ่มขึ้นมา 2เม็ด (มีความรู้สึกเจ็บด้านข้างๆหัวหน่าว ช่วงรอยต่อระหว่างขาค่ะ) ดิฉันจึงเข้าไปหาคุณหมอให้ตรวจให้อีกรอบ คุณหมอก็ตรวจแผลแล้วก็พูดอะไรสักอย่าง ดิฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ รวมมั้งถามถึงอาการคันแล้วก็เหน็บยามาให้อีกรอบ คราวนี้ยาที่ละลายออกมาเป็นสีเหลืองนะคะ รวมถึงโดนฉีดยาที่ก้นด้วย คราวนี้คุณหมอสั่งจ่ายยา Cefaclor(แคปซูลสีฟ้า) กับComplex Phazyme two-layer Tab(เม็ดสีแดงคล้ายกับยาบำรุงธาตุเหล็กเวลาไปบริจาคเลือดน่ะค่ะ แล้วก็ยาทา Fucidin

         หลังจากหาหมอมาได้2วัน แผลคล้ายร้อนในเริ่มแห้ง (มีสารคัดหลั่งออกมาจากแผลบ้าง เนื่องจากช่วงนี้ฤดูหนาว เสื้อผ้าใส่ที 3-4ตัว ไม่สามารถที่จะใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดีได้ค่ะ) แต่ยังคงมีอาการคันอยู่โดยเฉพาะตอนกลางคืน รวมทั้งมีตกขาวเหนียวข้นออกมา ตอนแรกคิดว่าอาจจะเป็บยาที่หมอเหน็บมาให้ค้างอยู่ในช่องคลอด ตอนนี้ผ่านมา5วันแล้ว นับจากวันที่ไปหาหมอครั้งที่2ค่ะ  แต่ตกขาวก็ยังออกเหนียวข้นเหมือนเดิม มีสีออกเหลืองๆ บางครั้งอมเขียวด้วยค่ะ แล้วก็มีอาการคันที่คิดว่าน่าจะเป็นเพราะตกขาวค่ะ

         จึงอยากเรียนถามคุณหมอค่ะว่าอาการที่ดิฉันเป็น ใช่อาการของเริมหรือไม่ค่ะ แล้วอาการตกขาวที่เป็นอยู่นี่ เป็นผลจากยาที่เคยเหน็บไปหรือเปล่าคะ  จะมีทางรักษาได้อย่างไรบ้างคะคุณหมอ

ขอบพระคุณล่วงหน้าค่ะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 42 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.82 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

14 มกราคม 2557 14:25:26 #2

ขอเรียนเพิ่มเติมอีกนิดนะคะ ก่อนที่จะมีตุ่มขึ้นคือ มีอาการเจ็บๆแสบๆ บริเวณที่ตุ่มขึ้นน่ะค่ะ แล้วตอนนี้ด้านตรงข้ามของแผล(ฝั่งด้านขวา ที่เมื่อเวลายืนเท้าชิดกันเนื้อจะประกบกันได้น่ะค่ะ) มีอาการเจ็บๆแสบๆเหมือนกันตั้งแต่ตอนช่วงตุ่มแตกกลายเป็นแผลคล้ายร้อนใน จนถึงตอนนี้ก็ยังมีอาการแสบนิดๆ ถ้าไปสัมผัส ส่วนตัวคิดว่าอาจจะเป็นเพราะสารคัดหลั่งที่ออกมาจากแผลแล้วไปโดน ซึ่งอาจจะลามมาขึ้นอีกฝั่งนี้ก็ได้ แต่ปัจจุบันนี้ด้านข้างขวานั้น ยังไม่มีตุ่มอะไรเกิดขึ้นมาเลยค่ะ

ปล.ปกติเป็นคนโกนขนบริเวณข้างแคมอยู่แล้วค่ะ แต่ช่วงนี้ไม่ได้โกน เนื่องจากมีแผลเกิดขึ้น กลัวจะไปโดนแผลแล้วติดเชื้อ แล้วก็ไม่ใช่คนที่ใส่ชุดชั้นในแน่น คับอะไรเลย เวลานอนก็ไม่ใส่ค่ะ

ปล2.ระยะนี้เนื่องจากตกขาวที่ออกมา เลยต้องใส่แผ่นอนามัยรองไว้ด้วย ทำให้บางครั้งแผลที่คล้ายกับร้อนในนั้นจากที่แห้งอยู่ก็กลับมาอับชื้น แล้วก็มีสารคัดหลั่งออกมาจากแผลนิดหน่อยด้วยค่ะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

16 มกราคม 2557 04:09:41 #3

จากอาการที่บอกมาน่าจะมีการติดเชื้อไวรัสซึ่งเป็นเชื้อเริม เพราะมีตุ่มลักษณะคล้ายแผลร้อนใน ร่วมกับมีตกขาวผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นเชื้แบคทีเรียร่วมด้วย แพทย์จึงสอดยาให้ และให้ยารับประทานสำหรับเชื้อแบคทีเรีย ตอนนี้เข้าใจว่าอาการตกขาวผิดปกติเริ่มดีขึ้นแล้ว ตกขาวจึงมีลักษณะข้นขึ้นเป็นสีเหลือง แต่อาการคันยังไม่ดีขึ้นจึงควรรักษาเชื้อราร่วมด้วย ตอนนี้ลองซื้อยาสำหรับเชื้อราเช่น canesten มาใช้ อาการอาจจะดีขึ้นได้เอง ส่วนเริมถ้าแผลแห้งดีแล้วก็ยังไม่ต้องทำอะไร มันจะค่อยๆ แห้งหายไปได้เองค่ะ

Anonymous

16 มกราคม 2557 08:52:21 #4

มาอัพเดทอาการค่ะคุณหมอ อันนี้เป็นลักษณะแผลปัจจุบันค่ะ แผลยังไม่ค่อยแห้งดี บางครั้งก็มีสารคัดหลั่งคล้ายกับน้ำเหลือง ซึมออกมาจากแผลนิดหน่อยค่ะ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8f5b9-9511-1.jpg

รูปนี้เป็นลักษณะของตกขาวที่ออกมาค่ะ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8f5b9-9511-2.jpg

ตั้งแต่เมื่อวานมีความรู้สึกว่าแผลบวมขึ้นนิดหน่อย แล้วมีอาการปวดช่วงต้นขาซ้ายด้านหลังค่ะ (ส่วนที่อยู่ต่อจากก้นลงมาน่ะค่ะ) โดยเฉพาะเวลาที่จับหรือกดแผล ไม่ทราบว่าเกิดจากการอักเสบของแผลหรือเปล่าคะ สามารถทานยาแก้ปวดระงับได้ไหมคะ

ปล.วันนี้อาการตกขาวเริ่มลดน้อยลงค่ะ แล้วจะลองหายาที่คุณหมอแนะนำมาใช้ดูนะคะ :)

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

16 มกราคม 2557 14:37:58 #5

จากรูปเป็นการติดเชื้อเริมค่ะ ส่วนตกขาวเป็นลักษณะที่เข้าได้กับเชื้อรามากที่สุด ควรใช้ยาต้านเชื้อไวรัสกลุ่ม cyclovir ชนิดรับประทาน และยาสอดสำหรับเชื้อราค่ะ

Anonymous

17 มกราคม 2557 13:28:06 #6

คุณหมอขา ขอต่ออีกโพสนะคะ พอดี มีตุ่มขึ้นใหม่ 2ตุ่ม ตามรูปเลยค่ะ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8f5b9-9511-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/8f5b9-9511-4.jpg

รูปอาจจะไม่ค่อยชัดนะคะ เพราะถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ

ก่อนหน้านี้ช่วงที่คันหนักๆ ก็เกาจนเกิดเป็นแผลถลอกเล็กๆน่ะค่ะ พอเมื่อวานตอนกลางคืนก็กลายเป็นตุ่มอย่างที่เห็นนี่ล่ะค่ะ แล้วก็มีสารคัดหลั่งคล้ายกับน้ำเหลืองซึมออกมาจากตุ่มนี้ด้วย

ส่วนแผลของเริมนั้น มักจะแห้งช่วงกลางคืน แต่พอตื่นมาไปเรียนปกติ ใส่เสื้อผ้าหนาๆ ก็กลับมาเป็นแผลสดเหมือนเดิม หนักใจจังเลยค่ะ ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ ตอนนี้เหลือแค่ยาทา Fucidin ยังคงสามารถใช้ต่อได้เรื่อยๆไหมคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

19 มกราคม 2557 02:56:54 #7

จากแผลเป็นลักษณะการติดเชื้อเริม ควรทายาต้านเชื้อไวรัสด้วย เช่น acyclovir cream ควรหลีกเลี่ยงความอับชื้น ใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางแล้วเปลี่ยนทิ้งบ่อยๆ จะทำให้อาการดีขึ้นได้