หมออยากให้เข้าใจตามนี้นะครับ

ปกติแล้ว การที่จะตั้งครรภ์ได้นั้น จะต้องมีอสุจิที่มีปริมาณและคุณภาพระดับหนึ่งอยู่ในช่องคลอดในช่วงเวลาที่มีการตกไข่ ดังนั้น หากไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ ก็ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ ส่วนการที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่แต่ไม่ได้หลั่งด้านในนั้น อาจมีอสุจิเล็ดลอดออกมาได้ ในปริมาณน้อยมาก แต่หากคิดจากความเป็นไปได้นั้น ถือว่า เป็นไปได้นะครับ ที่จะตั้งครรภ์ แต่โอกาสต่ำมากๆ ดังนั้น การป้องกันก่อนการมีเพศสัมพันธ์ย่อมดีกว่ามาป้องกันหรือแก้ไขทีหลังนะครับ และ การทานยาเม็ดคุมกำเนิดนั้น จำเป็นหรือไม่นั้น หากกังวลมาก ในความคิดเห็นของหมอ ก็ควรทานนะครับ และ ก็อยากให้ไม่มีเหตุการณ์นี้อีกที่จะต้องมากังวลหรือทานยาครับ

งั้นผมเข้าใจอย่างนี้ถูกไหมครับ

-ถ้าไม่มีการสอดใส่ ไม่มีโอกาสตั้งครรภ์ และไม่จำเป็นต้องทานยาคุมกำเนิด

-ถ้ามีการสอดใส่ ไม่ได้ป้องกัน แต่หลั่งข้างนอก โอกาสตั้งครรภ์ยังมีอยู่ แต่น้อย ถ้ากังวลควรทานยาคุมกำเนิด

แล้วมีความเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าใช้นิ้วที่เปื้อนน้ำหล่อลื่นเข้าไปแล้วจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

ระหว่างไม่ได้สอดใส่เลยกับสอดใส่แล้วป้องกันด้วยถุงยางอนามัย กรณีไหนปลอดภัยกว่ากันครับ หรือมีค่าเท่ากัน เพราะผมอ่านมาว่า มีกรณีที่ถุงยางอนามัยฉีกขาดด้วย

รบกวนคุณหมอด้วยครับ ขอบคุณมากครับ

ครับผม หากไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศ ก็ไม่มีโอกาสที่จะตั้งครรภ์ ส่วนการที่มีเพศสัมพันธ์ที่มีการสอดใส่แต่ไม่ได้หลั่งด้านในนั้น ก็ไม่ควรทำแม้โอกาสจะน้อย ส่วน หากมีการสอดใส่อวัยวะเพศ แล้ว มาใส่ถุงยางอนามัยหลังสอดใส่ไปแล้ว และ มีเพศสัมพันธ์ต่อ ก็มีโอกาสนะครับ เพราะ ได้สอดใส่ไปแล้ว

เรื่องถุงยางอนามัย โดยปกติแล้ว ในกระบวนการผลิดถุงยางอนามัยนั้น มีระบบการตรวจสอบคุณภาพที่รัดกุมมาก มีการทดสอบก่อนออกมาจากการผลิต ซึ่งหากเราใช้อย่างถูกต้อง ก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ ส่วนในกรณีที่ถุงยางอนามัยฉีดขาด โอกาสเป็นไปได้น้อยมากนะครับ ซึ่งหมอขอแนะนำการใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง ดังนี้ครับ

• ดูวันเดือนปีที่หมดอายุ
• เลือกขนาดให้เหมาะสม ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
• การฉีกออกจากซองควรดันให้ถุงยางไปอีกด้านหนึ่งเสียก่อน และ ไม่ใช้กรรไกรหรือของมีคมตัด
• ใส่ถุงยางในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่ โดยบีบปลายถุงเพื่อไล่ลมออกก่อน ซึ่งการไล่ลมจะช่วยไม่ให้ถุงยางแตกและหลุดง่ายขณะทำการสอดใส่อวัยวะเพศ
• ไม่จำเป็นต้องใช้สารหล่อลื่น และ ไม่ควรใช้วาสลีนมาหล่อลื่น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ง่ายขึ้น
• เมื่อต้องการจะถอดถุงยางออก ควรรูดถุงยางจากส่วนโคนลงมา โดยอาจใช้ทิชชูพันรอบ และ ทำความสะอาด