กระดานสุขภาพ

ยาคุมกำเนิด
Anonymous

6 มกราคม 2557 18:08:35 #1

สอบถามเรื่องการใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน หลังจากรับประทานไปเเล้วนานเท่าไหร่ถึงจะมีประจำเดือน

เเละ ยาคุมกำเนิด เเบบ 21 เม็ด หากใช้เป็นแผงที่ 3 ต้องรอกี่วันจึงมีผลคุมเนิด

อายุ: 18 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.20 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
ภก.ประดิษฐ์ งามศิริผล

เภสัชกร

8 มกราคม 2557 18:02:50 #2

เรียน คุณ 76a64,

ขออนุญาตตอบเป็นข้อ ๆนะครับ

1. การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ใช้เมื่อเป็นกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน หรือถุงยางอนามัยฉีกขาดขณะมีเพศสัมพันธ์ วิธีการรับประทานยาที่ถูกต้อง มี 2 แบบ คือ แบบแรก รับประทานยา 1 เม็ด ภายใน 24-72 ชั่วโมงของการมีเพศสัมพันธ์ และอีก 1 เม็ด 12 ชั่วโมงหลังจากรับประทานยาเม็ดแรก หรือ แบบที่สอง คือ รับประทานยา 2 เม็ดทันที ภายใน 24-72 ชั่วโมงของการมีเพศสัมพันธ์ ตามข้อมูลยาไม่ควรรับประทานยาเกิน 2 ครั้ง ต่อเดือน เนื่องจากจะทำให้ประจำเดือนมาผิดปกติได้ (ประจำเดือนมากะปริบกะปรอย หรือไม่มีประจำเดือนเลย) กำหนดวันคงลำบากครับ เนื่องจากขึ้นกับร่างกายของแต่ละคนในการปรับให้ฮอร์โมนกลับสู่ปกติ แต่ส่วนใหญ่หลังจากได้รับยาคุมฉุกเฉิน ซึ่งมีปริมาณฮอร์โมนสูงมากกว่าปกติ มักจะทำให้ประจำเดือนมาช้า และมีปริมาณน้อยกว่าปกติ

** จากการศึกษาวิจัย พบว่าสตรีที่ได้รับยาคุมฉุกเฉินขนาดสูง เกิน 3 ครั้ง ตลอดชีวิต จะมีอัตราเสี่ยงในการเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือเกิดมะเร็งของเต้านม มดลูก หรือรังไข่ สูงกว่าสตรีทั่วไปที่ไม่เคยได้รับฮอร์โมน หรือสตรีที่ได้รับยาคุมกำเนิดชนิดรับประทานทั่วไป **

2. ยาคุมกำเนิด ชนิด 21 หรือ 28 เม็ด จะได้ผลตั้งแต่เม็ดแรกนะครับ หากรับประทานยาได้อย่างถูกต้อง สม่ำเสมอ ชนิด 21 เม็ด เมื่อหมดยาแผงที่ 2 แล้วหยุดยา 7 วัน โดยที่ไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะมาหรือไม่มา จะหยุดแล้วหรือไม่ ให้เริ่มต้นรับประทานยาแผงที่ 3 โดยยาจะออกฤทธิ์ยับยั้งไม่ให้มีไข่ตกได้ตั้งแต่ 24 ชั่วโมงแรกที่ได้รับประทานเข้าไป

  • ควรรับประทานยาคุมกำเนิดก่อนนอน เวลาคลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 ชั่วโมง ระดับยาในเลือดจะค่อนข้างคงที่ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเลือดออกกะปริบกะปรอย
  • รับประทานยา(ทุกชนิด) ด้วยน้ำเปล่าสะอาด เท่านั้น การรับประทานร่วมกับ ชา กาแฟ นม น้ำเต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากนม อาจลดการดูดซึมของยาได้
  • ไม่ซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใด ๆ มาใช้ โดยที่ยังไม่ได้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เนื่องจากอาจทำให้ฮอร์โมนในยาคุมกำเนิดถูกทำลายเร็วขึ้นได้
  • ไม่มีการรับประทานยาคุมกำเนิดชนิดปกติ พร้อมกับการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนะครับ เนื่องจากปริมาณฮอร์โมนจะสูงมาก จนร่างกายอาจเกิดความผิดปกติได้

ข้อเสนอแนะ : การสวมถุงยางอนามัย นอกจากช่วยคุมกำเนิดแล้ว ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย เช่น หนองใน ซิฟิลิส ตับอักเสบ บี ซี หรือ เอดส์ เริม หงอนไก่ รวมถึงป้องกันการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papilloma virus) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่กระตุ้นให้เกิดมะเร็งปากมดลูก และยังลดความเสี่ยงในการได้รับฮอร์โมนขนาดสูง ๆเป็นเวลานาน ๆอีกด้วย

เภสัชกรประดิษฐ์ งามศิริผล

 

ขอแนะนำบทความดี ๆจากกองบรรณาธิการของเราครับ

ยาเม็ดคุมกำเนิด (Birth control pill) โดย แพทย์หญิง กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา