ขอเพิ่มเติมข้อมูลนะคะคุณหมอ

บางครั้งเวลาปัสสาวะก็มีกระปิดกระปรอยบ้างค่ะ เช่น เวลาอาบน้ำ 

มีการปัสสาวะออกมาเล็กน้อย แต่หลายครั้ง ท้องของดิฉันบวมแข็งเล็กน้อยแต่กดแล้วไม่เจ็บค่ะ

แบบนี้อาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบรึป่าวคะ หรือเป็นอาการเริ่มต้นของตั้งครรภ์จริงๆ

จากลักษณะดังกล่าว ที่การมีเพศสัมพันธ์นั้น ไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศเลย ก็ไม่มีโอกาสเลยนะครับ ที่จะตั้งครรภ์ได้ ส่วนเรื่องเลือดที่ออกมาเล็กน้อยนั้น น่าจะเกิดจากการเลือดที่ออกจากช่องคลอดจากการสอดใส่นิ้ว ซึ่งปริมาณน้อยมากๆจนเห็นเป็นเพียงสีคล้ำๆ จุดเล็กๆครับ

ส่วนอาการต่างๆที่มีนั้น เป็นอาการก่อนมีประจำเดือนอย่างแน่นอนครับ ซึ่งอาการของการตั้งครรภ์นั้น จะมีอาการในช่วงที่ประจำเดือนขาดไปจากวันที่ควรจะมาไปประมาณ 4 สัปดาห์ หรือ อายุครรภ์ประมาณ 7-8 สัปดาห์ครับ ซึ่งหมอคิดว่า อีกไม่นานก็จะมีประจำเดือนมาครับ ส่วนสาเหตุที่มาล่าช้านั้น อาจมีผลจากภาวะเครียด วิตกกังวลก็ได้นะครับ

ส่วนการตรวจการตั้งครรภ์นั้น หมอคิดว่า ไม่จำเป็นนะครับ จากเหตุผลที่หมอกล่าวไป

ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะ สบายใจขึ้นเยอะเลย

ขอถามต่ออีกคำถามนะคะ

ตอนนี้อาการปวดท้องน้อยและปัสสาวะกระปิดกระปอยยังคงมีอยู่บ้างค่ะ

เริ่มมีตกขาวสีใสออกมาปริมาณเยอะขึ้นจากที่ก่อนหน้าแทบไม่มีเลย แต่ดิฉันไม่ค่อยมีอาการคัดเต้านมหรือปวดหลังแล้ว

ปัสสาวะของดิฉันเป็นสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นฉุนเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีเลือดออกมาพร้อมปัสสาวะ ปวดปัสสาวะบ่อยๆ

บางครั้งดิฉันจะปวดท้องแถวรอบสะดือ แบบนี้เสี่ยงเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบด้วยมั้ยคะ หรือว่าไม่เกี่ยวกัน

แล้วกระเพาะปัสสาวะอักเสบนี่มีผลต่อการเลื่อนของประจำเดือนมั้ยคะ

หรืออาการข้างต้นเป็นแค่อาการก่อนประจำเดือนมาเท่านั้น

จากอาการข้างต้น หมอคิดว่า หากมีอาการ ปัสสาวะบ่อย กลิ่นผิดปกติจากเดิม ถึงแมัจะยังไม่แสบหรือคัดในช่วงปัสสาวะ อาการก็ค่อนข้างคล้ายกับกระเพาะปัสสาวะอักเสบนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ งดเพศสัมพันธ์ หากอาการไม่ดีขี้น ควรมาพบแพทย์นะครับ และ ในเรื่องของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบนั้น ไม่มีผลหรือเกี่ยวข้องกับประจำเดือนที่ผิดปกติครับ

ส่วนในเรื่องประจำเดือนที่ยังไม่มานั้น จากที่หมอกล่าวไปในเรื่องการตั้งครรภ์ ขอให้สบายใจนะครับ ซึ่งสาเหตุอื่นๆที่มีผลรอบกวนต่อการตกไข่ แล้วทำให้การสร้างฮอร์โมนผิดปกติไปได้นั้น ยกตัวอย่าง เช่น ความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนไม่เป็นเวลา น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ใกล้สอบ ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ

ดังนั้น โดยรวมแล้ว หมอแนะนำ อาจรอสังเกตุอาการก่อน หากประจำเดือนขาดหายไปจากวันที่ควรจะมาเกิน 2 สัปดาห์แล้ว ควรมาพบสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อหาสาเหตุอื่นๆ และ ถ้าหากไม่มีสาเหตุอะไร อาจจำเป็นต้องได้รับยาปรับรอบประจำเดือนครับ