กระดานสุขภาพ

จิตตกเเละกังวลมากเลยครับ
Anonymous

5 มกราคม 2557 04:48:40 #1

ผมมีตุ้มคล้ายๆสิวที่บริเวณถุงอัณทะกลัวจะเป็นหูดข้าวสุกเป็นมาก็เกือบ1ปีเเล้วคับโดยผมได้มีเพศสัมพันธ์ครั้งเเรก2ปีก่อนเเล้วก็เพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดโดยใส่ถุงยางอนามัยก็เดือนมีนาคมที่ผ่านมาหรือ10เดือนที่เเล้ว เเต่ผมก็ไปตรวจหาเชื้อHIVที่ห้องเเลปเเห่งหนึ่งเมื่อ เดือนธันวาคม ที่ผ่านมาเเล้วครับผลออกมาเป็น ลบ ผมเลยไปหาหมอโรคผิวหนังเขาก็บอกว่าผิวหนังอักเสบให้ยามาทาเเต่ก็ยังไม่หาย สรุปผมอยากรู้ว่าผมเป็นอะไรกันเเน่ระหว่างหูดข้าวสุกกับผิวหนังอักเสบเเล้วผลตรวจเลือดระยะ10เดือนเชื่อถือได้มากเเค่ไหนคับ กังวลใจมากเลยคับ

 

 

อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

6 มกราคม 2557 02:45:49 #2

การตรวจเลือดเพื่อหาหารติดเชื้อเอดส์ (ไวรัส HIV ) ในปักจจุบันนี้มีการทดสอบหรือชุดตรวจที่มีการพัฒนาสามรถตรวจพบได้ประมาณ 4 อาทิตย์ลังมีความเสี่ยง และจะตรวจพบได้ใน 3 เดือน ในกรณีของคุณที่ตรวจแล้วหลังมีความเสี่ยง 10 เดือน ผลเป็นลบ ถ้าไม่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม ก็มั่นใจได้ว่าไม่ติดเชื้อ ส่วนเรื่องตุ่มที่ลูกอัณฑะถ้าไปหาหมอโรคผิวหนังแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องของผิวหนังอักเสบซึ่งอาจจะเป็นๆหายๆ ต้องหาสาเหตุว่ามีปัจจัยอะไรหรือแพ้อะไรจึงทำให้อาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้หาหมอผิวหนังและรักษาตามที่แพทย์แนะนำครับ หรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นมาให้ช่วยดูก็ได้ครับ

นพ. อนุพงศ์

Anonymous

6 มกราคม 2557 08:18:52 #3

ขอบคุณครับคุณหมอ อนุพงศ์ ผมอยากรู้มากเลยครับว่าอาการเเบบนี้คนปกติมีสิทธิที่จะเป็นได้ไหมคับเเล้วจะหายเป็นปกติได้ไหมคับขอโทษนะคับคุณหมอพอดีผมไม่ทราบวิธีลงรูปเเต่ลักษณะตุ้มก็คล้ายสิวเม็ดเล็กๆประมาณ 10 กว่าตุ้มคับ

 

Anonymous

6 มกราคม 2557 10:13:57 #4

ตอนผมไปหาหมอโรคผิวหนังที่คลินิกหมอบอกว่ามันเกิดจากการอับชื้นคับเมื่อก่อนผมเป็นคนที่ชอบใส่กางเกงซ้อนกันหลายๆตัว หมอเขาเลยบอกให้ผมไม่ต้องใส่กางเกงสบายๆมันจะเกี่ยวกันไหมคับคุณหมอ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

7 มกราคม 2557 02:17:22 #5

โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังบริเวณลูกอัณฑะ อาจมีสาเหตุหลายอย่าง ทั้งจากวามอับชื้น การใส่กางเกงรัดเกินไป การแพ้กางเกงใน และการเกาจะทำให้เป็นมากขึ้น ผิวหนาขึ้น เป็นตุ่มคัน ต้องใช้เวลารักษานานและมีโอกาสเป็นๆหายๆ นอกจากนี้อาจมีโรคแทรก เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือในกรณีที่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน ก็อาจต้องนึกถึงโรคติดต่อ เช่น แผลเริม หิด เป็นต้น แนะนำให้หามอโรคผิวหนังหรือส่งรูปมา

นพ. อนุพงศ์

Haamor Admin

(Admin)

7 มกราคม 2557 02:18:20 #6

เรียน คุณ b40ed

สามารถอ่านวิธีการโพสรูปภาพได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้คะ

http://haamor.com/webboard/ห้องเพศศึกษา/4995/

Anonymous

7 มกราคม 2557 10:33:24 #7

ผมก็เคยมีความเสี่ยงคับ ผมก็ได้เพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดโดยใส่ถุงยางอนามัยก็เดือนมีนาคมที่ผ่านมาหรือ10 เดือนที่เเล้ว เเต่ผมก็ไปตรวจหาเชื้อHIVที่ห้องเเลปเเห่งหนึ่งเมื่อ เดือนธันวาคม ที่ผ่านมาเเล้วครับผลออกมาเป็น ลบ เเต่ก่อนหน้านั้น 1 วันที่ผมจะไปตรวจหาเชื้อ HIV ผมได้กินยาเเก้อักเสบ 1 เม็ดในเวลา 6 โมงเย็นตกตอนเช้าเวลา 8.30 ผมก็ไปตรวจเชื้อ HIV มันจะมีผลอะไรหรือป่าวคับอาจจะทำให้ผลเลือดผิดพลาดได้ไหมคับ

รูปภาพตุ้มที่ถุงอัณทะคับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b40ed-9310-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b40ed-9310-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/b40ed-9310-3.jpg

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

8 มกราคม 2557 02:21:07 #8

เนื่องจากรูปไม่ค่อยชัด แต่พอมองเห็นว่าเป็นตุ่มเล็กๆ สีออกเหลืองๆ อาจเป็น ตุ่มของไขมันที่อยู่ตามผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศที่เรียกว่า Fordyce spot ซึ่งเป็นภาวะปกติ ในบางคนจะค่อยๆจางลงหรือบางคนอาจอยู่ได้นานหรือตลอดไป แต่ไม่มีอันตราย อย่างไรก็ตามเนื่องจากรูปไม่ค่อยชัด แนะนำหาหมอเชี่ยวชาญโรคผิวหนังโดยเฉพาะหรือถ่ายรูปชัดๆส่งมาใหม่

 

นพ. อนุพงศ์

Anonymous

8 มกราคม 2557 09:36:46 #9

ขอบคุณคับ คุณหมอผมขอถามอีกหน่อยนะคับหากเรากินยาเเก้อักเสบ 1 เม็ดในเวลา 6 โมงเย็น ตกตอนเช้าเวลา 8.30 ไปตรวจเลือดหาเชื้อ HIV มันจะมีผลอะไรหรือป่าวคับอาจจะทำให้ผลเลือดผิดพลาดได้ไหมคับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 มกราคม 2557 04:52:39 #10

การตรวจเลือด HIV ไม่เกี่ยวกับการกินยาแก้อักเสบ ตรวจตอนไหนก็ได้ วิธีการตรวจในปัจจุบันที่ใช้กันทั่วไป คือ GEN 4 สามารถตรวจพบได้ที่ 3-4 อาทิตย์หลังจากมีความเสี่ยง เมื่อตรวจครั้งแรก เป็นลบ ควรตรวจอีกครั้งเมื่อครบ 3 เดือน ถ้าเป็นลบ ก็ไม่ติดเชื้อยกเว้นมีความเสี่ยงเพิ่มเติม แนะนำให้ใช้บริการตามสิทธิที่มี เช่น บัตรทอง ประกันสังคม ข้าราชการ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย

 

นพ. อนุพงศ์