กระดานสุขภาพ

ตุ่มสีขาวขุ่นที่แคมเล็ก
Siri*****a

4 มกราคม 2557 14:21:20 #1

มีประวัติผ่าตัดผีในช่องคลอดเมื่อสองปีที่แล้ว หลังจากผ่าตัด1ปีมีประวัติเป็นเริมที่อวัยวะเพศ พบแพทย์ทานยา อะซิโตรมัยซิน และ อะไซโคลเวียร์ แล้วอาการหายไปและในปีเดียวกัน(2556) มีเรื่องเครียดมากทั้งเรื่องแยกทางกับสามีและเรื่องเรียนต่อในปีนี้ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์เลยแต่กลับมีอาการของเริมเกิดขึ้นอีก ได้ไปพบเภสัชเพื่อซื้ออะไซโคลเวียร์มาทานแต่เภสัชแนะนำให้ใช้เฉพาะยาทาและให้พักผ่อนเยอะๆ สุดท้ายอาการไม่ดีขึ้นกลับไปซื้ออะไซโคลเวียร์จากอีกร้านมาทานอาการก็ยังคงเดิม  จนปัจุจัน(1ปี) อาการยังคงเดิมคือมีผื่นสีขาวขุ่นเล็กๆมีอาการคันยุบยิบที่แคมเล็กทั้งด้านในและด้านนอก และมีผดผื่นเล็กๆที่แคมเล็กด้านในสุด ไม่มีอาการเจ็บและตกขาวเป็นมูกใสในปริมาณมากผิดปกติ จึง ไปพบแพทย์แพทย์ให้ยาต้านเชื้อรามาทานและครีมมาทา อาการดีขึ้นเล็กน้อยและเริ่มแย่ลง ไปพบแพทยือีกครั้งถามแพทยืตรงๆว่าผื่นสีขาวขุ่นเล็กๆคืออะไร แพทย์บอกว่ามันคือสะเก็ดเริมมันจะหายไปเอง จนตอนนี้ปีกว่าแล้วผื่นขาวขุ่นเล็กนั้นยังคงเป็นอยู่ในปริมาณเท่าเดิม มีอาการคันไม่เจ็บไม่แสบมีตกขาวเป็นแป้งบางครั้ง  เลยตัดสินใจไปพบแพทย์ผิวหนังแพทย์แจ้งว่าเป็นผื่นแพ้ เพราะผิวหนังบริเวณแคมเล็กดูหนาขึ้น แพทย์ผิวหนังแจ้งว่า ผื่นขาวเป็นต่อมปกติของอวัยวะเพศ แต่ดิฉันคิดว่ามันไม่ปกติ เพราะมันมีอาการคันและทำให้มีตกขาวบางครั้งรู้สึกตึงบริเวณขาหนีบ ต้องทานยาแก้อักเสบบ่อยๆ  ช่วงเวลาสองปีรู้สึกกังวลใจมากหลับไม่สนิทอยากรักษาให้หายเป็นปกติ  ขอเรียนปรึกษาสูตินรีแพทย์ช่วยแนะนำให้ความรู้เรื่องอาการที่เป็นอยู่และแนวทางการรักษาด้วยค่ะ  ขอบพระคุณค่ะ

 

อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 49 กก. ส่วนสูง: 163ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.44 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

5 มกราคม 2557 05:50:22 #2

อาการผื่นที่พบมานานถึง 2 ปี น่าจะมีลักษณะที่เกิดจากอาการผื่นภูิแพ้ ไม่น่าจะเป็นลักษณะจากการติดเชื้อเริมหรือรา เพราะโดยปกติการิดเชื้อทั้ง 2 อย่างไม่ทำให้เกิดการกินลึกของผิวหนัง เมื่อหายก็จะหายสนิท ไม่มีร่้องรอยแผลเป็นหรือผื่นหนา ดังนั้นควรพบแพทย์ทางด้านโรคผิวหนังเพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง ส่วนใหญ่จะเป็นการบรรเทาอาการ ยาที่ใช้ก็มักจะเป็นสเตียรอยด์ ถ้าผิวหนังหนาจะรู้สึกไม่ปกติได้ บางครั้งลักษณะที่เป็นมานานเรื้อรังอาจจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจว่าเป็นเนื้อที่ผิดปกติหรือเซลล์มะเร็งหรือไม่ อาจจำเป็นต้องตัดเนื้อบางส่วนไปตรวจ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อทการตัดชิ้นเนื้ออีกครั้ง ถ้าทราบผลเนื้อเราจะได้สบายใจขึ้นว่าไม่ใช่ความผิดปกติ แต่ถ้าผิดปกติเช่นเป็นมะเร็งของผิวหนังบริเวณนี้อาจจำเป็นต้องรักษาโดยสูตินรีแพทย์ต่อไป

Siri*****a

7 มกราคม 2557 09:27:50 #3

ขอบพระคุณค่ะคุณหมอ..เมื่อสองวันที่ผ่านมาไปพบแพทย์ที่ศูนย์ผิวหนัง(ศูนย์จังหวัดตรัง) แพทย์แจ้งว่าเป็นผื่นปกติแต่ไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจค่ะ ตอนนี้แพทย์ให้ ยาไฮโดรคอติซอลครีม มาทาผื่นเพื่อบรรเทาอาการคัน แต่แพทย์แจ้งว่าการรักษาครั้งนี้ไม่ได้คาดหวังว่าผื่นจะหายไปเพราะเป็นผื่นปกติที่อวัยวะเพศ  ดิฉันฟังแล้วก็งงๆ แต่ก่อนนี้ประมาณสามเดือนเคยไปพบแพทยืที่คลินิกผิวหนังเป็นแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังโรงบาลสงขลานครินทร์ แพทยืท่านก็แจ้งว่าเป็นผื่นแพ้ หากปล่อยไว้นานจะกลายเป็นอย่างอื่นได้(อาจจะหมายถึงมะเร็ง) หนูเป็นกังวลใจมากๆ คิดว่าทายาไฮโดรคอติซอลสักระยะหากอาการไม่ดีขึ้นจะไปพบสูตินรีแพทย์อีกครั้ง แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องไปที่ศูนย์กามโรคหรือปล่าวคะ หรือเป็นสูตินรีแพทย์ทั่วๆไปดีคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

7 มกราคม 2557 12:09:32 #4

คุณควรไปพบแพทย์ทางด้านโรคผิวหนังตามโรงเรียนแพทย์ใหญ่ๆ จะดีที่สุดเพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่นอนค่ะ