กระดานสุขภาพ

โรคติดต่อทางเพศ
Chan*****0

23 ธันวาคม 2556 15:35:56 #1

สวัสดีครับคุณหมอผมมีข้อสงสัยในเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อยากจะสอบถามครับ

1. ในตอนนี้ผมมีอาการเจ็บคอ และไอ มีผื่นขึ้นบริเวณต้นขา และที่อวัยวะเพศของผมมีกลิ่น แต่ไม่แรงมาก คล้ายๆกลิ่นของปัสสาวะที่ยังคงมีค้างอยู่ตรงปลายเล็กน้อย อาการในลักษณะดังกล่าวมีโอกาสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ครับ 

2.โรค หนองในแท้ หนองเทียม ซิฟิลิส เริม แผลริมอ่อนและโรคหูด โรคที่กล่าวมาในข้างต้นนั้นสามารถติดต่อได้อย่างไรครับ จำเป็นหรือไม่ครับว่าจะติดโรคได้นั้นจะต้องเป็นในกรณีของการสอดใส่เท่านั้น ถ้าในกรณีการถูไถ่จะสามารถติดต่อได้หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น ช่องคลอดของเพศหญิงถูบริเวณล่องก้นหรือแก้มก้นของฝ่ายชาย หรือ อวัยวะฝ่ายชายถูไถ่บริเวณอวัยวะของเพศหญิง  

3.และถ้าผมต้องการตรวจเพื่อความแน่ใจว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่นั้น ควรตรวจเมื่อใด ถ้าหลังจากมีความเสี่ยงอย่างน้อย 1 เดือนสามารถตรวจได้หรือไม่ และโรงพยาบาลใดที่น่าเชื่อถือและปลอดภัยได้ที่สุด ผมรู้จักแค่คลินิกนิรนาม แต่ไม่มั่นใจว่าจะเชื่อถือหรือปลอดภัยมากเท่าใด

4.ในปัจจุบัยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาทิ โรคหนองในแท้ หนองเทียม ซิฟิลิส เริม แผลริมอ่อนและโรคหูด สามารถรักษาให้หายขาดได้หรือไม่

5.ผมสามารถสังเกตุจากอาการตนเองได้หรือไม่ว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ และต้องใช้ระยะเวลาเท่าใดครับ จะถือว่าปลอดภัยจากโรค 

 

อายุ: 25 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 65 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.97 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Chan*****0

23 ธันวาคม 2556 15:41:27 #2

http://haamor.com/media/images/webboardpics/chanatip.w2000-9129.jpg

 ผมได้ฝากไฟล์รูปไว้ครับ 

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 ธันวาคม 2556 05:41:31 #3

ขอแบ่งเป็นเรื่องๆ

1. โรคเอดส์ ติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกับผู้ติดเชื้อ การติดเชื้อจะมีอาการดังนี้ 1. การติดเชื้อระยะเฉียบพลัน เกิดขึ้นใน 2-4 อาทิตย์หลังจากที่มีพฤติกรรมเสี่ยงโดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดข้อ คลื่นไส้อาเจียน มีผื่นขึ้นตามตัว เจ็บคอ ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งอาการจะค่อยดีขึ้นใน 1-4 อาทิตย์ เนื่องจากอาการเหล่านี้ไม่ค่อยเฉพาะเจาะจงทำให้มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ติดเชื้อโดยไม่รู้ตัวอาจนึกว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ 2. ระยะที่ไม่มีอาการจะเป็นระยะต่อจากระยะเฉียบพลันผู้ติดเชื้อจะไม่มีอาการผิดปกติแต่อย่างไร ระยะนี้จะอยู่ระหว่าง 3-5 ปี แต่ในบางรายอาจนานเป็น 10 ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลสภาพของร่างกายและปริมาณเชื้อไวรัสในเลือด 3. ระยะที่เป็นเอดส์ ผู้ป่วยเริ่มจะมีภูมิต้านทานลดลง น้ำหนักลด ท้องเสียเรื้อรัง มีผื่นคันตามตัว เป็นเชื้อราที่ลิ้น ต่อมาเริ่มมีโรคแทรก เช่น งูสวัด วัณโรคปอด เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปอดบวม เป็นต้น

2. โรคติดต่ออื่นๆ เช่นหนองใน หนองในเทียม ซิฟิลิส หูด รักษาหายขาดได้ ยกเวันเริมที่จะเป็นๆหายๆ อาการของแต่ละโรคจะแตกต่างกันแล้วแต่ชนิดของโรค

3. โดยทั่วไป ถ้ามีอาการผิดปกติ สงสัยว่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ให้หามอได้ทันที แต่ถ้าไม่มีอาการและอยากรู้ว่าติดเชื้อหรือไม่ ให้ตรวจเลื้อดหาการติดเชื้อของโรคเอดส์และซิฟิลิส ได้โดยใช้สิทธิที่มี เช่น บัตรทอง บัตรประกันสังคม สิทธิข้าราชการ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เมื่อตรวจครั้งแรกปกติ ให้ตรวจซ้ำอีกเมื่อครบ 3 เดือน ถ้าผลเป็นลบ ก็ไม่น่าจะติดเชื้อ ยกเว้นมีพฤติกรรมเสียงซ้ำ

4. การติดต่อโดยการสัมผัสภายนอกมีโอกาสน้อยมาก มีการศึกษาเรื่องการติดเชื้อเอดส์ถ้ามีการร่วมเพศกับผู้ติดเชื้อ 1 ครั้ง ดังนี้

  • ชายหรือหญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางทวารหนัก 0.5%
  • หญิงเป็นฝ่ายถูกสอดใส่ทางช่องคลอด 0.1%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ทางทวารหนัก 0.065%
  • ชายเป็นฝ่ายสอดใส่ช่องคลอด 0.05%
  • ชายหรือหญิงเป็ยฝ่ายถูกทำออรัลเซ็กส์ 0.01%
  • ชายหรือหญิงที่เป็นฝ่ายทำออรัลเซ็กส์ 0.005%

อย่างไรก็ตามโอกาสจะเพิ่มขึนถ้าเป็นกามโรคหรือมีแผลด้วย