กระดานสุขภาพ

ตกขาวมีกลิ่น หลังมีเพศสัมพันธ์
Anonymous

19 ธันวาคม 2556 15:55:20 #1

ดิฉันมีเพศสัมพันธ์กับแฟน 4 วันติดต่อกัน วันละหลายๆครั้ง จนรู้สึกเจ็บเวลาสอดใส่ แล้วแฟนไม่ได้ใส่ถุง ดิฉันก็ไม่ได้กินยาคุมแต่อย่างใด ใช้วิธีหลั่งนอก หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 1 วัน ดิฉันรู้สึกคันอวัยะเพศ และมีตกขาวสีขาวขุ่นๆปนสีเขียวอ่อนๆออกมากและมีกลิ่นเหม็น อวัยวะมีสีขาวๆเหมือนตะกอนเล็กๆติดอยู่ ก็เลยกังวลว่าจะเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการแบบนี้เป็นอะไรมากไหมคะและควรปฎิบัติตนอย่างไร

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 167ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.80 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

21 ธันวาคม 2556 04:40:18 #2

คุณน่าจะมีการติดเชื้อภายในช่องคลอดเพราะมีตกขาวสีและกลิ่นผิดปกติ เชื้อที่พบน่าจะเป็นกลุ่มของแบคทีเรียที่ไม่ใช้ออกซิเจน จึงทำให้เกิดกลิ่นที่เหม็นและสีผิดปกติ ควรมารับการตรวจภายในเพื่อรับการวินิจฉัยโดยเอาสิ่งคัดหลั่งไปตรวจ จะได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เพราะถ้าอาการมากเชื้อที่พบอาจจะผ่านไปยังด้านบน ทำให้เกิดการติดเชื้อที่โพรงมดลูกหรืออวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานได้ต่อไปยาที่ใช้อาจจะเป็นยาสอดหรือยารับประทานตามที่แพทย์เห็นสมควรค่ะ

Anonymous

21 ธันวาคม 2556 14:14:46 #3

สอบถามอีกอาการ

หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนมีตกขาวมีกลิ่น ตะกอนสีขาวติดอยู่ตามอวัยวะเพศ มีอาการคัน พอผ่านไป 1 วันที่อวัยวะเพศมีก้อนเนื้อเล็กๆ ขนาดเล็กมาก เหมือนหูดหรือหงอนไก่ขึ้นตามแคมในเป็นแนวยาวทั้ง 2ฝั่ง และบริเวณปากช่องคลอด พอเอามือไปจับแล้วรู้สึกคัน อาการดังกล่าวเกิดจากอะไร เป็นโรคอะไร และมีวิธีรักษาอย่างไร 

Anonymous

22 ธันวาคม 2556 16:43:51 #4

เนื่องจากไม่มีเวลาไปหาหมอ โรงพยาบาลก็อยู่ไกล 

ตอนนี้ตกขาวยังไม่หาย เป็นมา 4-5 วันแล้วคะ  อาการช่วงหลัง คันลดน้อยลง แต่ตกขาวมีกลิ่นมากขึ้น เป็นน้ำสีเขียวอ่อนๆไหลออกมา อวัยวะรอบๆมีสีแดง มีตุุ่มเล็กๆรอบๆ แต่ไม่มาก พอเอามือไปแตะรู้สึกคัน ก็เลยอยากจะทราบว่า ติดเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรีย ค่ะ ไปซื้อยาที่ร้านยา เภสัชให้ยาเหน็บฆ่าเชื้อรา แต่ไม่กล้าใช้เพราะไม่มั่นใจ และอยากทราบว่า ถ้าใช้ยาเหน็บไม่ครบ 6 เม็ด ส่งผลเสียต่ออะไรรึเปล่าคะ อันตรายไหม 

ขอคำแนะนำด้วยคะ

รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

23 ธันวาคม 2556 09:59:48 #5

คุณน่าจะเป็นเชื้อรา อาการผื่นหรือก้อนเนื้อเล็กๆที่พบอาจจะเกิดจากเชื้อราได้เช่นกัน หรืออาจจะเป็นหูดก็ได้ อาจจะรักษาโดยการทายาเฉพาะที่สำหรับเชื้อรา รับประทานยาต้านเชื้อราหรือทายาเฉพาะที่สำหรับหูด อย่างไรก็ตามควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป เพราะถ้ารักษาเองและไม่ใช่การติดเชื้อดังกล่าวอาจจะทำให้อาการมากขึ้นและมีอาการดื้อยาได้ค่ะ