กระดานสุขภาพ

ช่วยหน่อยครับ
Anonymous

17 พฤศจิกายน 2556 23:58:57 #1

เป็นแผลฉีกขาดบริเวณหนังหุ้มปลาย หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก คืนแรกจึงล้างทำความสะอาดธรรมดา ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม พอวันที่ 2 แผลเริ่มแห้ง แต่หนังหุ้มปลายมีอาการบวม เหมือนมีน้ำอยู้ข้างใน บริเวณแผลเป็นสีขาวและเริ่มมีกลิ่นเหม็น ผมควรทำอย่างไร รบกวนช่วยติดต่อผมมาทางอีเมล์ด้วยน่ะครับ ผมเป็นกังวลมาก ขอบคุณครับ

อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 85 กก. ส่วนสูง: 169ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.76 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

18 พฤศจิกายน 2556 00:17:46 #2

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

19 พฤศจิกายน 2556 05:25:26 #3

มี 2 ประเด็น ประเด็นแรก เรื่องหนังหุ้มบวม เกิดจากการที่หนังหุ้มปลายยาวและไม่ได้ขลิบ เวลาแข็งตัวจะรัด เมื่อดึงหนังหุ้มลงมาจึงรัดมากขึ้น ทำให้บวม แ้ก้ไขโดยการต้องพยายามดันส่วนหัวและดึงหนังหุ้มให้มาคลุมปิดส่วนหัว ถ้าทำเองได้ 2-3 วันก็จะหายบวม แต่ถ้าทำเองไม่ได้ จะบวมมากขึ้นต้องรีบหาหมอ เพื่อจะคลายการรัดโดยการใช้มีดตัดหนังบริเวณที่รัดออกโดยใช้ยาชา และอาจพิจารณาขลิบหนังไปด้วยเลย จะได้ไม่เป็นอีก

การขลิบหนังหุ้มปลายถือเป็นการผ่าตัดธรรมดา มีการฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้เวลา 1 ชม. แผลจะหายใน 2 อาทิตย์ ผลดีของการขลิบคือ ทำความสะอาดง่าย ไม่เป็นแผลเวลาร่วมเพศ

มีการศึกษาที่หลายประเทศในทวีปแอฟริกาพบว่าช่วยลดการติดเชื้อเอดส์ได้ประมาณ 40%

ประเด็นที่ 2 เรื่องแผล ถ้าไม่มีการป้องกัน เช่นไม่ใช้ถุงยาง ก็มีโอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อ ที่พบบ่อยคือ เริม

ในกรณีที่เป็นครั้งแรกจะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต

ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัมทุก 4 ชม. 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม (ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ

แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้ ที่สำคัญต้องระวังการมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะติดต่อได้ง่ายครับ โดยเฉพาะตอนที่เป็นตุ่มน้ำและตอนที่เป็นแผลจะมีเชื้อไวรัสออกมามากครับ

Anonymous

20 พฤศจิกายน 2556 20:32:06 #4

คือตอนนี้ ผมใช้ยาตัวนี้อยู่ครับ DicloxaRX 500 mg กับยาทาผิวหนัง Skinfect เนื่องจากผมไปถามจากแหล่งอื่นมา(ขอไม่เอ่ยนามน่ะครับ) เขาบอกว่าแผมที่ผมเป็นติดเชื้อและแนะนำให้ผมใช้ยา 2 ตัวนี้  และตอนนี้แผลก็เริ่มหายแล้วครับ แต่อาการบวมยังไม่ลดลง เป็นไปได้ไหมว่า อาการบวมนี้จะเป็นไปตามแบบที่ 1 ที่คุณหมอตั้งข้อสังเกตุนะครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

22 พฤศจิกายน 2556 04:06:39 #5

สำหรับเรื่องแผล เมื่อหายแล้ว ถ้ามีการเป็นซ้ำและเริ่มด้วยการเป็นตุ่มน้ำใสๆก่อนแล้วจึงแตกเป็นแผล ก็แสดงว่าน่าจะเป็นเริม แต่ถ้าไม่เป็นอีก ก็อาจเป็นแผลอักเสบทั่วไป ส่วนเรื่องหนังหุ้มบวมคงเป็นประเด็นแรกที่เคยตอบแล้ว ให้พยายามดันส่วนหัวคืนสภาพเดิมโดยให้หนังหุ้มปลายหุ้มส่วนหัวไว้ ถ้าทำได้ 2-3 วันก็หายบวม แต่ถ้าทำไม่ได้ อาจต้องหาหมอ