กระดานสุขภาพ

การรักษาโรคซิฟิลิส
Anonymous

9 พฤศจิกายน 2556 19:03:28 #1

ผมรักษาโรคซิฟิลิส ที่ รพ.รัฐ แห่งหนึ่ง มาได้ประมาณ 1 ปี
โดยไม่ทราบสาเหตุและระยะของโรค
จึงรักษาแบบระยะแฝง late latentinfection ด้วยยา Benzathine penicillin G 2.4 million unit

ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง จนครบ 3 สัปดาห์
เว้นระยะ แล้วตรวจเลือดใหม่ พบค่า VDRL เหลือ 1:8 (ครั้งแรกสุด 1:32 และลดลงตามลำดับ)

ปัจจุบัน ห่างหายจากการตรวจรักษามาได้ระยะหนึ่ง (6 เดือน)
อาการปัจจุบัน ยังคงพบตุ่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตอยู่ / มีตุ่มขึ้นตามร่างกายบ้าง เป็นระยะๆ
ขอถามดังนี้คับ
1. การรักษาด้วยยา Benzathine penicillin เมื่อฉีดครบแล้ว และมีค่า VDRL เหลือดังข้างต้น จำเป็นต้องรับการรักษาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ 

2. คนไข้ ควรที่จะเจาะเลือดเพื่่อเฝ้าระวังโรคนี้ ทุกๆ 6 เดือนหรือไม่

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

อายุ: 29 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

11 พฤศจิกายน 2556 06:54:23 #2

โรคซิฟิลิสเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อยขึ้นโดยเฉพาะในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย จะมีโอกาสพบบ่อยกว่าชายทั่วไป แบ่งเป็น 1. แผลริมแข็งหรือระยะที่ 1 รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 2. ระยะที่ 2 มีอาการผื่นขึ้นตามตัวไม่คัน ผมร่วงเป็นต้น รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต ครั้งเดียว 3.ระยะแฝง ไม่ีมีอาการ รักษาโดยฉีดยา benzathine 2.4 ล้านยูนิต 3 ครั้งติดต่อกัน (อาทิตย์ละ 1 เข็ม)

1.การติดตามผลการรักษาโดยการตรวจ VDRL หรือ RPR มีข้อบ่งชี้ว่าต้องรักษาซ้ำ เมื่อค่า VDRL หรือ RPR เพิ่มขึ้นจากก่อนรักษาหรือใรกานติดตามผลในการตรวจครั้งต่อๆมามากกว่า 4 เท่า หรือเมื่อครบ 1ปี ยังมีค่ามากกว่า 1:8 ในกรณีของคุณไม่ต้องรักษาซ้ำ

2. ควรตรวจทุก 6 เดือน

Anonymous

12 มกราคม 2557 17:11:46 #3

ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับคุณหมอ

3-4 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีอาการผิดปกติอะไรคับ
ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบยังคงโตอยู่ และยังไม่พบที่บริเวณอื่นเพิ่มเติม

แต่กังวลกับตุ่มที่ขึ้นตามร่างกายมากกว่า
เป็นตุ่มแข็งสีแดง คล้ายรอยยุงกัด มีน้ำเหลืองตรงกลาง หายช้า และเมื่อหายแล้ว มักเป็นแผลเป็น ตุ่มนี้ยุบ อีกตุ่มก็ขึ้น เป็นสักพัก ประมาณ 1 เดือน.... เมื่อตุ่มเริ่มหาย ก็จะไม่มีอาการหรือตุ่มขึ้น สัก 2-3 เดือน แล้วก็กลับมาขึ้นใหม่

ยังโชคดีที่ตุ่มหรือแผลนั้น มีปริมาณที่ไม่เยอะมาก จนเป็นที่สังเกตุ

แต่ผมก็ระัมัดระวังตัว และผมเลิกมีเพศสัมพันธ์นานแล้ว ตั้งแต่ตรวจพบโรคนี้คับ และออกกำลังกายเป็นประจำด้วย

1. ไม่ทราบว่า ตุ่มหรือแผลนี้ จะเป็นไปตลอดเลยหรือเปล่าคับ ทั้งๆ ที่ผมได้รับยา benzathine penicillin แล้ว

2. จำเป็นต้องเจาะน้ำไขสันหลัง เพื่อตรวจหาเชื้อ หรือเปล่าคับ