กระดานสุขภาพ

อาการ : คันที่ปลายหนังหุ้มอวัยวะเพศชาย
Anonymous

30 ตุลาคม 2556 16:20:06 #1

ก่อนเริ่มอาการผมมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ได้ใส่ถุงยาง จากนั้นกลางคืนผมไม่ได้อาบน้ำครับตื่นเช้ามารู้สึกคันๆที่หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศครับ แล้ว 2-3 วันถัดมามันเริ่มบวมแดงที่บริเวณส่วนปลายของอวัยวะเพศครับ เมื่ออาบน้ำผมสังเกตุว่ามันมีขี้ไคลขาวๆมากกว่าปกติด้วยครับผม ตอนนี้เจ็บๆแสบๆครับ อยากสอบถามว่าโรคนี้เกิดจากอะไร รักษาได้อย่างไร และใช้ยาตัวไหนครับ ขอบคุณคุณหมอที่เข้ามาให้ความสนใจครับ

อายุ: 17 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 168ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.49 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

30 ตุลาคม 2556 17:14:03 #2

ผมไม่รู้ว่ามันใช้กับอาการนี้ได้ไหม คือผมมียา Canesten (Clotrimazole 1%) กับอีกตัวหนึ่งคือ Zyno 0.02% (Triamcinolone acetonide) ถ้าเกิดใช้ไม่ได้รบกวนคุณหมอแนะนำทีครับผม

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

1 พฤศจิกายน 2556 04:36:35 #3

เนื่องจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเป็ฯดรคติดต่อได้ ซึ่งโรคที่พบบ่อยคือเริมซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้ แต่ถ้าโชคดีไม่เป็นเริมอาการที่เล่ามา น่าจะมีสาเหตุมาจากการระคายเคือง แพ้สารที่สัมผัสหรือเป็นเชื้อราร่วมด้วย วิธีรักษาคือเริ่มด้วยการทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนๆ เช่น สบู่เด็ก ห้ามใช้สบู่ยาหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ จะยิ่งบวมและอักเสบมากขึ่น เช็ดให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อราและเสตียร์รอยด์อ่อนๆ ที่มีอยู่แล้ว ลองทาดู ประมาณ 5 -7 วัน น่าจะดีขึนครับ โดยสรุป ถ้าไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ

 

นพ. อนุพงศ์