กระดานสุขภาพ
ขอร้อง ช่วยตอบทีนะครับ ผมไหว้ ผมกราบ ผมขอร้องละคับ | |
---|---|
18 ตุลาคม 2556 15:41:57 #1
|
|
อายุ: 18 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.09 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
21 ตุลาคม 2556 10:02:18 #2 1. ฝีบริเวณข้างท่อปัสสาวะ จะเป็นร่วมกับโรคหนองในแท้หรือหนองในเทียม พบได้ในกรณีที่ได้รับการรักษาที่ไม่ถูกต้องหรือเชื้อดือยา จะอยู่ข้างๆท่อปัสสาวะ อาจะป็นข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 05-1 ซม. 2. ลูกอัณฑะอักเสบเป็นโรคแทรกซ้อนของหนองในแท้และหนองในเทียม ลูกอัณฑะจะบวมโต เจ็บและมีไข้ร่วมด้วย ถ้าเป็นสองข้าง จะมีโอกาสเป็นหมัน เพราะมีการอักเสบของท่อสร้างน้ำเชื้อที่อยู่ติดกับลูกอัณฑะ 3. อาการปัสสาวะแสบ ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือเที่ยวผู้หญิง ไม่ใส่ถุงยางอนามัย มักเกิดจากโรคหนองในแท้และหนองในเทียม ซึ่งไม่น่าจะหายได้เอง ต้องมีการรักษาด้วยยาแก้อักเสบ อธิบายเพิ่มเติมว่า หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ หนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 2 อาทิตย์ ในปัจจุบันอาจมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองในแท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน และอย่าลืมนะครับ ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ป้องกันได้ทั้งกามโรคและโรคเอดส์ครับ
นพ. อนุพงศ์ |
Sdfs*****8