เป็นได้ 2 กรณี

1. มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยว มีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง แผลที่พบบ่อยคือเริม จากเชื้อไวรัส Herpes simplex ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้

2. ไม่มีความเสี่ยงทางเพศ อากรที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการที่หนังหุ้มปลายยาวเกินไปและมีการรัดเวลาแข็งตัว ทำให้หนังหุ้มปริและประกอบกับความชื้น จึงอาจมีเชื้อราร่วมด้วย รวมทั้งคราบขาวๆซึ่งคือขี้เปียก แนะนำให้ใช้สบู่อ่อนๆเช่นสบู่เด็ก ล้างทำความสะอาดเบาๆ ซับให้แห้ง ทาด้วยครีมแก้แพ้และฆ่าเชื้อรา เช่น triamcinolone 0.02%+ clotimazole ทาบางๆ เช้าเย็น และก่อนนอน ปะมาณ 5-7 วันน่าจะหายครับ ในกรณีที่เป็นๆหายๆคงต้องหาสาเหตุ เช่น แฟนเป็นด้วยหรือไม่

โดยสรุป ถ้าไม่แน่ใจให้หาหมอผิวหนัง หรือให้ประวัติเพิ่มและส่งรูปชัดๆมาให้ด้วย

นพ. อนุพงศ์

ขอบคุณครับ

ตอนนี้ไม่มีแผลแล้ว แต่ไม่รู้จะเป็นอีกไหม ถ้าเป็นอีกจะส่งรูปมานะครับ