กระดานสุขภาพ
ไม่รู้ว่าเป็นอะไรไม่เคยเป็นเลยครับกลัวๆ | |
---|---|
8 สิงหาคม 2556 16:48:34 #1 คือผมมีแผลอยุ่ตรงบริเวณโคนอวัยวะเพศ บริเวณแผลนั้นมีน้ำเหลืองไหลออกมาครับ ไม่ทราบว่ามันคืออะไร มันเกิดจากอะไร แล้วมีวิธีการรักษาหรือป่าวครับบ ใช้ยาตัวไหนทาหรือกินได้บ้าง รบกวนตอบหน่อยน่ะครับคือตอนนี้รู้สึกไม่ดีเลยย |
|
อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.38 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Anonymous |
8 สิงหาคม 2556 17:14:35 #2 |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
9 สิงหาคม 2556 14:49:03 #3 ดูจากรูป น่าจะเป็นเริม เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์จากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้ ต้องระวังการมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะติดต่อได้ง่าย
นพ. อนุพงศ์ |
Anonymous |
10 สิงหาคม 2556 23:44:28 #4 ขอบคุณครับคุณหมอ. ตอนนี้ซื้อยาdicioxacillin 500mg. มากินอยุ่อ่ะครับเหมือนจะดีขึ้น
คุณหมอครับถ้า อัณฑะด้านด้านไม่เท่าด้านขวามันผิดปกติหรือป่าวครับ คือหลังที่เป็นเริม มันก็ตามกันมาเรย ตอนปัสาวะมีอากาสเสียบ บางหลัง แต่ไม่มีหนองไหลจากอวัยวะเพศ คือจะทำไงให้หายได้ครับ แล้วก็ตรงขาหนีบทั้งสองขาเหมือนมีก้อนอะไรสักอย่างสัมผัสดูจะรู้สึกได้เรย |
Anonymous |
11 สิงหาคม 2556 12:21:01 #5 Clinovir-400 Acyclovir มันใช่ยาตัวเดียวกันกับที่ คุณหมอบอกหรือป่าวครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
12 สิงหาคม 2556 04:26:50 #6 ยาที่ถามมาเป็นยาชนิดเดียวกัน แต่เป็นขนาด 400 มิลลิกรัม ให้กินครั้งละ 1 เม็ด วันละ 4 เวลา ส่วนอาการเป็นก้อนที่ขาหนีบน่าจะเป็นต่อมน้ำเหลืองที่เกิดจากเริม ซึ่งเมื่อกินยา จะค่อยๆยุบครับ
นพ. อนุพงศ์ |
Anonymous |
13 สิงหาคม 2556 06:00:42 #7 ขอบพระคุณครับคุณหมอ นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร |
Anonymous