กระดานสุขภาพ

ปรึกษาคุณหมอเกี่ยวกับ HIV
Clic*****e

8 สิงหาคม 2556 05:24:14 #1

สวัสดีครับ คุณหมอทุกท่าน (ดีใจเป็นอย่างมากครับ ที่ได้พบเจอเว็บไซต์นี้ เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากครับ)

     รบกวนปรึกษาเลยครับ 

     ก่อนอื่นต้องบอกคุณหมอก่อนเลยครับว่า ผมเป็นคนประเภทคิดมาก (ต้นเหตุจริง ๆ เกิดจากฝี ที่เกิดขึ้น ใต้รักแร้ซ้าย เม็ดหนึ่ง) ก้อนประมาณ 2 cm. ขึ้นได้ 4-5 วันแล้ว ก็มีหัวขาว ๆ เหมือนสิวโผล่ออกมา (ไม่เจ็บ กดได้ จับได้) แล้วก็แตกออกเองเหมือนบีบสิว...... พอแตกออก ผมก็ทำการบีบเอาหัวหนองสีขาว ออก และทำแผลด้วย เบตาดีน


     หลังจากนั้น อีก 2 วัน ก็เหมือนกับว่าจะ บีบออกมาไม่หมด ก็มีหัวสีขาวโผล่ขึ้นมาอีก ผมก็ค่อย ๆ บีบเค้น ออกมาจนหมด รอบ .... แล้วก็ล้างแผลด้วยน้ำเปล่า พร้อมทั้งทา เบตาดีน เหมือนเดิม

     ครั้งที่ 3 ก็ยังมีหัวสีขาวโผล่มาอีกเป็นระยะ ๆ ผมก็ทำแบบเดิม จนกระทั้งเวลาผ่านไป 13-14 วัน (2 อาทิตย์) ก็หายไปเอง พร้อมกับทิ้งแผลเป็นไว้ (ตามรูปที่แนบมานี้)

http://haamor.com/media/images/webboardpics/clickmouse-6608-1.jpg

    พอฝีขึ้นที่รักแร้ก็เริ่ม จิตตกครับ นึกพึงพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ทีเกิดขึ้นในชีวิต รวมทั้งอาการที่เกิดขึ้นในขณะนั้น 
- ถ่ายเหลวติดกัน 2-3 วัน หลังจากนั้นก็เป็นก้อนปกติอีก 3-4 วัน ก็เหลวอีก สลับกันไป (น่าจะขึ้นอยู่กับอาหารที่ทานด้วย)

- มีอาการไข้หวัดลงคอ (ผมเป็นคนแพ้อากาศหนาว ถ้าอยู่ในที่หนาวๆ จะหายใจไม่ค่อยออก พร้อมกับมีน้ำมูกใส ๆ ไหลออกมาตลอดเวลา เป็นมาตลอด)

- ปวดหัวนิดหน่อย ติดกันมาประมาณ 4 วัน (อาจจะเกิดจากความเครียด)

- ที่ข้อมือ ผิวแห้งเป็นจุด 1 จุด (ก็จำไม่ได้ว่าไปทำอะไรมาบ้าง พอจิตตก ก็เริ่มสังเกตุอะไรไปหมดรอบ ๆ ตัว แล้วก็ ระแวง)

http://haamor.com/media/images/webboardpics/clickmouse-6608-2.jpg

 

พฤติกรรมเสี่ยง (ผมไม่เคยมีพฤติกรรมเสี่ยง หรือ ร่วมเพศโดยไม่ใส่ถุงยาง อนามัยเลยครับ) แต่เท่าที่จำได้น่าจะเสี่ยงที่สุดก็มี 3 เคส

1. ไปเที่ยว ผู้หญิงขายบริการ แล้วถุงยางอนามัยขาด (ช่วง ลำองค์ชาติ ไม่ใช่บริเวณปลาย) แต่จำไม่ได้ว่าได้เช็คน้ำอสุจิว่าคงอยู่มั้ย ระยะเวลา ตั้งแต่มีจนถึงปัจจุบัน ได้ 5 ปีแล้ว 

2. มีเพศสัมพันธ์ กับแฟน โดยไม่ได้ใส่ถุงยางอนามัย 1 ครั้ง ตลอดเวลา 3 ปี ทุกครั้งใส่หมด (ค่อนข้างมั่นใจ เพราะ แฟนพึ่งไปตรวจเลือด เค้าต้องใช้เอกสารประกอบในการสมัครงาน แต่ก็ไม่แน่ใจเพราะก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นได้ ถ้าแฟนเป็นผู้ติดเชื้้อ)

3. ไปเที่ยว ผู้หญิงขายบริการ ที่ขาของน้องเค้ามี จุดดำ ๆ ทั้ง 2 ข้าง (ผมถาม น้องเค้าแจ้งว่าน้ำเหลืองไม่ดี) แต่ผมก็ใส่ถุงยางอนามัย เมื่อเสร็จกิจ ก็ถอดเอง พร้อมตรวจสอบ น้ำอสุจิในห้องน้ำ ก็มีอยู่ภายในถุงปริมาณปกติครับ

ผมทราบดีว่าไม่มีอะไรทีจะตอบคำถามในใจผมได้ดี เท่ากับการตรวจเลือด
แต่ถ้าพบ HIV ขึ้นมา การยอมรับความจริง มันค่อนข้างยากจริง ๆ สำหรับผม
หรือ ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมา มันเป็นเพียง ความคิดมากจิตตก ของผมเอง
(ตอนนี้กำลัง อยู่ในระยะทำใจ เพื่อเข็นให้ตัวเองไปตรวจเลือดอยู่ครับ ยังทำใจไม่ได้ แต่คาดว่าเร็ว ๆ นี้ น่าจะสามารถยอมรับความจริง ได้ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด)

สุดท้ายนี้ ขอบคุณ คุณหมอทุกท่านมากครับ ที่อุตส่าเสียสละเวลา

มารับฟังปัญหาของผม และ ช่วยตอบคำถามครับ 

     

อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 70 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.22 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

9 สิงหาคม 2556 14:47:17 #2

การติดเชื้อเอดส์ระยะแรกมักจะเริ่มมีอาการหลังสัมผัสเชื้อประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ คลื่นไส้ มีผื่นขึ้นตามตัว ต่อมน้ำเหลืองโต เป็นต้น ซึ่งจะหายได้ ใน 1-2 อ่ทิตย์ หลังจากนั้นประมาณ 3-5 ปี เมื่อภูมิต้านทานลดลง ก็จะเริ่มมีอาการต่างๆ เช่น มีไข้ต่ำๆ ท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด มีผื่นคันตามร่างกาย และมีโรคติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น วัณโรค ปอดบวม เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น ในกรณีของคุณจากประวัติที่เล่ามาทั้งหมดร่วมกับอาการต่างๆมีโอกาสน้อยมากที่จะติดเชื้อเอดส์ ในปัจจุบัน มีคำแนะนำให้ผู้ที่เคยมีพฤติกรรมเสี่ยง ควรจะตรวจเลือด เพราะความก้าวหน้าในการรักษาการติดเชื้อเอดส์เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยพบว่าถ้าผู้ป่วยเอดส์ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและกินยาต้านไวรัสสม่ำเสมอ สามารถมีสุขภาพที่แข็งแรงและมีชีวิตยืนยาวเหมือนคนทั่วไปได้ แนะนำให้ตรวจเลือดโดยใช้สิทธิที่มีอยู่ เช่น ประกันสังคม บัตรทอง สามารถตรวจได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย รวมทั้งการรักษาต่อเนื่องจะฟรีหมด

 

นพ. อนุพงศ์

Clic*****e

13 สิงหาคม 2556 06:56:55 #3

ขอบคุณ คุณหมอมากครับที่ให้คำแนะนำ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็ต้องไปตรวจเลือด เพื่อความมั่นใจของตัวเอง
และ เพื่ออนาคต 

ขอบคุณ ๆ หมอมากครับ