ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ป้องกัน ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ครับ และตรวจการตั้งครรภ์แล้ว ไม่ตั้งครรภ์ก็ถือว่า เช่ือถือได้มากครับ ย่ิงหากตรวจในช่วงหลังประจำเดือนไม่มาถึงสองเดือนแล้ว ถือว่า ไม่ตั้งครรภ์แน่นอนครับ

ดังนั้น สาเหตุของประจำเดือนไม่มานอกเหนือจากการตั้งครรภ์ในวัยนี้ มักเกิดจากสาเหตุบางประการที่ที่มีผลต่อการตกไข่ จึงทำให้การหลั่งฮอร์โมนผิดปกติไป อาทิ เช่น ความเครียด วิตกกังวล พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนน้อย นอนดึก ไม่เป็นเวลา ช่วงใกล้สอบ ช่วงปรับตัวต่างๆ น้ำหนักเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หรือ กำลังลดน้ำหนัก ออกกำลังกายแบบหักโหมมากเกินไป ภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือ พร่องออร์โมน ทานยาหรือสารบางอย่างที่ออกฤทธ์คล้ายออร์โมน เช่น ยาสตรีต่างๆ ยาขับเลือด เป็นต้นครับ

ส่วนอาการตกขาวนั้น หากมีลักษณะสีขาวๆ ปริมาณมากขึ้น ไม่มีกล่ิน ไม่คัน ไม่มีอาการผิดปกติใด มักจะเป็นผลจากระดับฮอร์โมนที่มากขึ้น จากภาวะไม่ตกไข่ แต่หากมีอาการคัน แสบ กลิ่นเหม็น สีเขียวหรือเหลืองผิดปกติ ถือว่าเป็นอาการของการติดเชื้อในช่องคลอด ต้องรักษาครับ ซึ่งการจะบอกว่า จะใช้ยาอะไร กลุ่มไหน ควรต้องมาตรวจก่อน ว่า เป็นการติดเชื้อ จาก เชื้อรา แบคทีเรีย หรือ โปรโตซัว ครับ

ดังนั้น หากประจำเดือนขาดหายไปนานถึง 2 เดือนแล้ว ประกอบกับ มีตกขาวที่รักษาแล้วดูเหมือนจะไม่ดีขึ้น ควรพบสูตินรีแพทย์นะครับ เพื่อหาสาเหตุ ซึ่ง อาจจำเป็นต้องได้รับยาปรับรอบประจำเดือน และ ยารักษาตกขาว ครับ เรื่องตั้งครรภ์ ไม่ตั้งครรภ์นะครับ

ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนำ 

คือว่าตอนนี้อาการตกขาวของหนูหายแล้วค่ะ แต่ตอนที่เป็นค่ะมันมีอาการคือ ตกขาวคล้ายๆนมบูด แต่แสบ และคันมาก ไม่มีกลิ่นเหม็นค่ะ

ช่วงนี้หนูคงเครียดกับสอบMid termด้วย อ่านหนังสือหนัก นอนน้อยและณ ตอนนี้ประจำเดือนก็ยังไม่มาเลยค่ะ  เรื่องกินยา แม่หนูเคยให้กินยาชนิดนึงเป็นยาสตรีค่ะ ช่วงเดือนล่าสุดที่ประจำเดือนก่อนประเดือนยังไม่มาค่ะ 

***

ยาชนิดนี้ล่ะค่ะที่หนูได้กินมันไป

ถึง คุณ e159b

เพื่อความเหมาะสมในการใช้สื่อสาธารณะ ทาง Admin ขออนุญาตลบชื่อทางการค้า (ชื่อยา) ออกจากหน้าเว็บนะคะ และทาง Admin ได้ส่งเนื้อหาทั้งหมดของคำถามให้ทางคุณหมอเรียบร้อยแล้วนะคะ ดังนั้น คุณ e159b ยังสามารถติดตามคำตอบของคุณหมอได้เช่นเดิมคะ

จากอาการตกขาวนั้น มีลักษณะคล้ายกับเชื้อรานะครับ หากมีอาการอีกก็ควรมาพบแพทย์เพื่อรักษานะครับ เพราะ อาจเป็นซ้ำได้่บ่อยๆ หากไม่ได้รับการรักษา

ส่วนเรื่องยาที่ทานนั้น ยาประเภทนี้ เป็นยาที่มีประโยชน์ครับ แต่การควบคุมปริมาณของสารทีี่ออกฤทธ์ิคล้ายฮอร์โมนที่ต้องการมารักษาอาการผิดปกตินั้น ทำได้ยากมาก ไม่สามารถทำให้คงที่ แน่นอนในแต่ละครั้งที่ทาน และยังมีความแตกต่างในด้านส่วนประกอบในแต่ละชนิดยาอีกด้วย ดังนั้น การที่จะนำมาเพื่อการรักษาอาการเลือดประจำเดือนผิดปกติ หรือ มาใช้เพื่อควบคุมปรับรอบประจำเดือนนั้น ยังอาจนำมาใช้ค่อนข้างยากลำบากครับ อาจทำให้เลือดประจำเดือนมาผิดปกติได้ ส่งผลให้เลือดที่ออกผิดปกติอยู่แล้ว ยิ่งผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถทราบได้ว่า ผิดปกติจากสาเหตุอย่างไรกันแน่ครับ

ดังนั้น ในความคิดเห็นของหมอนั้น หมอไม่แนะนำให้ทานเพื่อรักษาประจำเดือนที่มาผิดปกตินะครับ ควรจะทราบสาเหตุเสียก่อน หากมีอาการผิดปกติ ควรมาพบสูตินรีแพทย์นะครับ