เป็นกันทุกคนล่ะครับ หากอยู่ในวัยทำงานเยอะ วัยหนุ่มสาวด้วย เมื่อเจอกับอากาศร้อนอย่างทุกวันนี้ ที่อุณหภูมิโลกสูงขึ้น โลกเราร้อนขึ้นจริงๆ ตั้งแต่ คศ. 1880-1980 อุณหภูมิโลกสูงขึ้น 0.4 องศาเซลเซียส

ทุกวันนี้แค่ 30 ปี จากปี 1980-2010 อุณหภูมิโลกสูงขึ้นไปแล้ว 0.6 องศาเซลเซียส

แถมวันที่อากาศเย็นยังลดลง จากปีละ 30-40 วัน เหลือแค่ 20 วัน

ยิ่งบ้านเราอยู่ในเขตร้อนด้วย เหมือนจะร้อนมากกว่าตัวเลขที่บันทึกไว้ ทำเราเหงื่อออกตลอดวัน ทั้งคันยุบยิบ เหนียวตัว ทั้งแสบ ทั้งร้อน จนผิวไหม้อักเสบ เป็นตุ่มเล็กๆ ผิวกร้านคล้ำ โดยเฉพาะบริเวณที่เสียดสี ตามขาหนีบ ตามรักแร้ สียิ่งดำคล้ำมาก หากอดไม่ได้เกามากก็พาลแสบเพิ่มขึ้นอีก จนสุดท้ายพากันเครียดหงุดหงิดอย่างคุณ 33676

ผิวคล้ำเป็นผื่นภายหลังผิวหนังอักเสบ เรียกว่า postinflammatory hyperpigmentation เริ่มจากมีการอักเสบที่ผิวหนังก่อน ผิวหนังอักเสบมีการรวมตัวของเม็ดเลือดขาวลิมโฟไซต์ ฮิสติโอไซต์รอบหลอดเลือดฝอยชั้นหนังแท้มากขึ้น ทำให้หลอดเลือดฝอยขยาย ผื่นตอนแรกจึงมีสีแดง พร้อมกันเซลล์สร้างเม็ดสี melanocyte ซึ่งอยู่ล่างสุดของชั้นหนังกำพร้า ใกล้กับหลอดเลือดฝอย มีการสร้างเม็ดสีเมลานิน melanin จำนวนเพิ่มขึ้น ทำให้ผื่นต่อมาเปลี่ยนเป็นสีดำคล้ำ และหากเม็ดสีเมลานินตกมาอยู่ในชั้นหนังแท้ด้วย ยิ่งทำให้ผื่นดำคล้ำอยู่นานมากขึ้น

การปฏิบัติตัวนอกจากต้องอยู่ในสถานที่มีอากาศถ่ายเท อาบน้ำ หรือประคบเย็น สวมใส่เสื้อผ้าที่ระบายเหงื่อได้ดี โรยแป้งเย็น หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด ดื่มน้ำร้อน ก็อย่าลืมดื่มน้ำทดแทนเหงื่อส่วนที่สูญเสียไป สำหรับเรื่องผื่นอาจทายาต้านการอักเสบ เช่น 1% Hydrocortisone cream, 0.5% Prednisolone cream หรือ 0.02% Triamcinolone cream วันละ 2-3 ครั้ง ให้ทาไม่เกิน 1 สัปดาห์ ข้อควรระวังคือ อาจติดเชื้อราผิวหนังแทรกซ้อน และการทาครีมสเตรอยด์นาน อาจทำให้ผิวฝ่อ ขนขึ้น เกิดผื่นหลอดเลือดฝอยพอง

ส่วนผื่นที่สีดำคล้ำไปแล้ว ต้องให้เวลาระบบภูมิต้านทานของร่างกายค่อยๆกำจัดเม็ดสีออกไป อาจมากกว่า 4 เดือนครับ