20 พฤษภาคม 2556 08:21:12 #1

ผมได้ไปทำหมันชายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว โดยหลังจากที่ไปทำมาประมาณ 1 ปี ช่วงเดือน พฤษภาคม 2555 ได้ไปหาหมออีกครั้งหนึ่งเนื่องจากมีอาการปวดที่บริเวณทำหมันมาก หมอบอกว่าที่บริเวณปลายท่ออสุจิที่ตัดออกแล้วรัดเอาไว้มีอาการบวมขึ้นมาเนื่องจากร่างกายของผมยังสร้า้งตัวอสุจิอยู่ มันจึงไปตันที่ปลายท่อแล้วบวมขึ้นมา ซึ่งคนที่ทำหมันชายโดยส่วนใหญ่แล้วเมื่อตัดออกร่างกายก็จะหยุดสร้างไปเอง โอกาสที่จะเจอแบบผมน้อยมาก หมอบอก หมอเลยให้ยาไปกิน แล้วนัดดูอาการอีก 1 อาทิตย์ ถ้าไม่หายอาจจะต้องตัดบริเวณที่บวมออกแล้วไฟฟ้าจี้แล้วรัดใหม่ ซึ่งหลังจากกินยาไป 1 อาทิตย์ อาการผมก็ดีขึ้น ปวดน้อยลงมาก หมอเลยให้ยามาอีก 1 ชุดแล้วนัดดูอาการอีก 1 อาทิตย์ แต่นัดครั้งที่ 2 นี้ผมไม่ได้ไปหาหมอ เพราะรู้สึกว่าไม่ปวดแล้ว ดีขึ้นมาก แต่ช่วงประมาณ พฤษภาคม 2556 ผมก็ปวดขี้นมาอีก แต่ว่าปวดที่ข้างขวา อย่างเดียวที่บริเวณปลายท่อที่บวมขึ้นมา พอไปให้หมอตรวจหมอก็ให้ยามาอีก 1 ชุดแล้วดูอาการอีก แต่คราวนี้ผมปวดที่บริเวณลูกอัณฑะ อย่างมาก ปวดทั้ง 2 ข้างเลย ปวดแบบจุก ๆ แขนขาอ่อนแรงเลย เลยอยากจะสอบถามคุณหมอว่า ถ้าผมผ่าตัดเอาตรงที่บวมออก แล้วร่างกายผมก็จะสร้างอสุจิมาดันปลายท่ออีกหรือเปล่าครับ ผมกลัวว่าทำไปแล้วจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก หรือว่าจะต่อท่ออะสุจิ ให้เหมือนเดิม จะได้ไม่อุดตันอีก แต่ผมเคยถามหมอที่ทำหมันผมแล้ว ดูเหมือนหมอจะไม่อยากต่อให้ หมอให้เหตุผลว่าผมทำมาแล้ว 1 ปี ร่างกายน่าจะหยุดสร้างอสุจิแล้ว ถึงจะต่อท่อให้เหมือนเดิมก็ไม่มีผลอะไร ผมเลยอยากจะสอบถามว่า แนวทางการรักษาของผมสมควรจะทำอย่างไรดี เพราะตอนที่ผมตั้งกระทู้นี้ ผมก็ปวดที่บริเวณอัณฑะอย่างมาก ปวดแบบว่าเบื่อโลกไปเลยไม่อยากทำอะไรเลย เซ็งชีวิต แต่ก่อนที่ผมจะไปทำหมันชายนี้ ผมก็ถามพ่อผมแล้วเพราะว่าพ่อเคยไปทำมาก่อนแต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร รบกวนสอบถามแค่นี้ครับ ขอบคุณครับ 

20 พฤษภาคม 2556 14:29:24 #2

21 พฤษภาคม 2556 10:12:20 #3