กระดานสุขภาพ

ตุ่มแดงที่ปลายอวัยวะเพศชาย
Anonymous

23 เมษายน 2556 07:33:12 #1

เมื่อ2วันก่อน เข้าห้องน้ำเพราะท้องเสีย พอออกจากห้องน้ำก็รู้สึกปวดแสบที่ปลายอวัยวะเพศ เลยกลับไปห้องน้ำดูว่าเป็นอะไร พบว่าที่ปลายอวัยวะเพศบวมแดงใหญ่มาก เหมือนโดนตัวอะไรกัด เลยดูที่ชักโครก ไม่พบตัวอะไรเลยแม้แต่มด พอผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง อาการบวมก็ลดลงและหายไป ผมก็สบายใจนึกว่าไม่เป็นอะไร แต่กลับมีตุ่มสีแดง2ตุ่มมาแทนอาการบวม กดก็ไม่รู้สึกเจ็บอะไรเลย ตุ่มคล้ายสิวมาก ไม่มีหนองอะไรเลยเป็นแค่ตุ่มขึ้นมาเฉยๆ ตอนนี้ผ่านมา2วันแล้ว ตุ่มยังมีอยู่แต่ไม่มีอาการแดงที่ตุ่ม อยากทราบว่ามันเข้าข่ายอาการอะไรเกี่ยวกับโรคเพศสัมพันธ์ไหมครับ(มีเพศสัมพันธ์เมื่อเกือบ2เดือนที่แล้ว ไม่ได้สวมถุงยาง) หรือเกิดจากเชื้อรา แบคทีเรียจากความไม่สะอาดของตัวเอง หรือโดนพวกแมลงสัตว์กัดต่อยจริงๆ

ปล.มันเข้าข่ายอันไหนมากกว่ากันครับ ตอนแรกผมเครียดตรงที่จะเป็ํนโรคทางเพศสัมพันธ์รึป่าว แต่แปลกตรงที่ตอนแรกที่รู้สึกมันบวมแสบมากอย่างกับโดนมดหรือตัวอะไรกัดมา

อายุ: 22 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 82 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.88 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 เมษายน 2556 15:16:49 #2

เกิดมีตุ่มหลังมีความเสี่ยงทางเพศ 2 เดือน โอกาสที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ยังมีอยู่ โดยเฉพาะถ้าตุ่มที่ว่าใหญ่ขึ้นและแตกกลายเป็นแผล ก็อาจเป็นแผลซิฟิลิสซึ่งจะเป็นแผลขอบแข็ง ไม่เจ็บและอาจพบหลังเสี่ยงได้ 1-3 เดือน ส่วนแผลเริมมักจะเป็นตุ่มใสและแตกเป็นแผลตื้นๆ แต่มักเป็นหลังเสี่ยง 3-7 วัน ในกรณีของคุณ ถ้าเป็นตุ่ม โดยที่ไม่แตกกลายเป็นแผล ก็อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียทั่วๆไปคล้ายกับการเกิดสิว ซึ่งการกินยาแก้อักเสบ เช่น dicloxacillin ครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 4 คร้ง ก่อนอากหารและก่อนนอน น่าจะหายใน 1 อาทิตย็ ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอหรือส่งรูปถ่ายชัดๆมาให้ดู ก็จะช่วยในการตอบได้ครับ