กระดานสุขภาพ

ไม่เคยเปลี่ยนคู่นอนเป็นหนองในได้ไหม
Anonymous

13 มีนาคม 2562 15:26:35 #1

ขอสอบถามค่ะ ไม่เคยเปลี่ยนคู่นอน มีสามีเพียงคนเดียว แล้วมีเพศสัมพันธุ์กันโดยไม่ได้ใส่ถุงยาง ปกติเสร็จกิจสามีจะลงไปล้างทำความสะอาดทุกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ได้ไปล้าง ในวันถัดมา สามีมีอาการเจ็บแสบที่ปลายอวัยวะเพศ แต่ฉี่ไม่ขัด ไม่มีหนองอะไรออกมา แต่สามีตกใจมากเพราะไม่เคยเป็นอย่างนี้ สามีสงสัยว่าจะติดหนองในรึปล่าว ซึ่งดิฉันกับสามีไม่เคยติดเชื้อหนองในและเปลี่ยนคู่นอนเลย แต่ดิฉันมีประวัติเป็นเชื้อราที่ช่องคลอดมา3รอบแล้ว รักษาหายแต่หลังจากหายประจำเดือนก็เป็นอีก รอบนี้ก็สอดยาครบ5แล้วเว้นไป1วัน ถึงมีเพศสัมพันธุ์กัน สงสัยมากเลยค่ะ ก่อนหน้าในระยะ3เดือนที่เป็นเชื้อราใส่ถุงยางตลอดค่ะ และไม่เคยเปลี่ยนคู่นอนเลย รักษาความสะอาดอย่างดีมีสิทธิ์เป็นหนองในได้เหรอคะ กังวลมากเลยค่ะ รบกวนด้วยค่ะ
อายุ: 34 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 44 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 17.63 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Anonymous

13 มีนาคม 2562 15:53:52 #2

จากโพสข้างบน ตอนนี้สามีมีน้ำเหลืองๆออกจากอวัยวะเพศเล็กน้อย ฉี่เริ่มขัด คิดว่าน่าจะใช่หนองในค่ะ ส่วนดิฉันมีตกขาวขุ่นสีเหลืองๆเขียวปนแต่ไม่มีกลิ่นไม่คันออกมาบ้างเวลาปัสสะวะแต่ไม่ขัดหรือมีอาการอื่นใด จะพากันไปตรวจภายในทั้งคู่ค่ะ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ ไม่สำส่อน ไม่เปลี่ยนคู่นอน ไม่ซกมกเป็นหนองในได้ด้วยเหรอคะ
Anonymous

13 มีนาคม 2562 15:53:57 #3

จากโพสข้างบน ตอนนี้สามีมีน้ำเหลืองๆออกจากอวัยวะเพศเล็กน้อย ฉี่เริ่มขัด คิดว่าน่าจะใช่หนองในค่ะ ส่วนดิฉันมีตกขาวขุ่นสีเหลืองๆเขียวปนแต่ไม่มีกลิ่นไม่คันออกมาบ้างเวลาปัสสะวะแต่ไม่ขัดหรือมีอาการอื่นใด จะพากันไปตรวจภายในทั้งคู่ค่ะ แต่ก็ยังสงสัยอยู่ ไม่สำส่อน ไม่เปลี่ยนคู่นอน ไม่ซกมกเป็นหนองในได้ด้วยเหรอคะ
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

14 มีนาคม 2562 06:50:02 #4

  • อาการปัสสาวะแสบขัด มีหนองจากท่อปัสสาวะ แสดงว่าอาจจะเป็นระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบซึ่งแบ่งเป็น 1 ร่วมกับการมีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์คือการมีคู่นอนหลายคน ไม่ใช้ถุงยาง น่าจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือกามโรค ที่พบบ่อยคือ หนองใน (แท้) เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่เรียกว่า ไนซีเรีย โกโนคอคไค สามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ) ที่ดีที่สุดคือยาฉีด ceftriaxone 250 mg ฉีดเข้ากล้ามเนื้อเข็มเดียว ได้ผลร้อยละ 95 ขึ้นไปครับ ส่วนหนองในเทียม เกิดจากเชื้อหลายชนิด ที่พบมากคือเชื้อคลามัยเดียและมัยโคพลาสมา ที่สำคัญคือประมาณ 10 % ยังไม่ทราบสาเหตุ รักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ (ยาแก้อักเสบ)ที่ได้ผลดีคือ ด็อกซี่ซัยคลีน หรือ อิริโทรมัยซิน กินประมาณ 1-2 อาทิตย์ ในปัจจุบันมียาที่กินครั้งเดียว คือ อะซิโทรมัยซิน 1 กรัม แต่จะได้ผลน้อยกว่า ในกรณีที่เป็นๆหายๆ โดยทั่วไปมักเกิดจากการไปติดเชื้อใหม่ จากคู่นอน ซึ่งในผู้หญิงไม่ค่อยมีอาการผิดปกติและ
  • ไม่รู้ว่าเป็นโรค เพราะฉะนั้นต้องรักษาทั้งคู่ครับ อย่างไรก็ตามพบว่าประมาณร้อยละ 50 อาจมีการติดเชื้อร่วมกัน คือเป็นทั้งหนองใน
  • แท้และเทียม ก็ต้องรักษาทั้ง 2 โรคคือ ทั้งฉีดและกิน 2 ไม่มีความเสี่ยง ระบบทางเดินปัสสาวะอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรียอื่น เช่นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ นิ่วในไต เป็นต้น เพราะฉะนั้น ถ้าแน่ใจว่าคุณทั้งคู่ไม่เคยมีเซ็กส์กับคนอื่น ก็ไม่น่าจะเป็นหนองในแท้หรือหนองในเทียม ต้องตรวจดูเชื้อ ส่วนเรื่องคันๆหรือแสบๆที่หนังหุ้มอวัยวะเพศหรือช่องคลอดนั้น ถ้าทั้งตัวคุณและแฟน ต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ คือ ไม่ได้มีเพศสัมพันธุ์กับคนอื่นหรือมีก็ใช้ถุงยางทุกครั้ง อาการที่เล่ามาน่าจะเกิดจากการระคายเคืองสารที่มาสัมผัส เช่น สบู่ เจลอาบน้ำ น้ำยาต่างๆที่ใช้บริเวณนี้ ร่วมกับความอับชื้น จึงเป็นจุดแดงๆและค่อนข้างแห้ง และอาจมีเชื้อราร่วมด้วย แนะนำให้ทำความสะอาดด้วยสบู่อ่อนๆ เช่นสบู่เด็ก ล้างเบาๆแล้วซับให้แห้งด้วยผ้านุ่มๆ ทายาที่มีส่วนผสมของยาแก้แพ้ชนิด triamcinolone 0.02% + ยาเชื้อรา clotimazoleทาบางๆ เช้าและก่อนนอนหลังอาบน้ำ น่าจะดีขึ้นใน 5-7 วัน ถ้าไม่ดีขึ้นหรือไม่แน่ใจแนะนำหาหมอผิวหนังครับ ในกรณีที่เป็นบ่อยอาจต้องระวังความอับชื้นและงดใช้สารที่สงสัยว่าจะแพ้และถ้าหนังหุ้มยาวเกินไปอาจต้องขลิบเพื่อให้ทำความสะอาดง่ายและไม่อับชื้น การขลิบหนังเป็นการทำศัลยกรรมที่ถือว่าไม่ซับซ้อน แพทย์ศัลยกรรมทั่วไปทำได้ครับ ต้องมีการฉีดยาชา ใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมงน่าจะเสร็จ ถ้ารักษาแผลให้ดี ประมาณ 2 อาทิตย์ แผลก็จะหายดี ส่วนแฟน ถ้ามีอาการตกขาว คันในช่องคลอด ก็อาจเป็นเชื้อราด้วย ในกรณีนี้แนะนำตรวจภายใน ถ้าเป็นเชื้อราก็รักษาโดยใช้ยากินหรือยาสอดช่องคลอดโดยสรุป แนะนำหาหมอครับ