กระดานสุขภาพ
แสบคันที่บริเวณทวาร | |
---|---|
19 เมษายน 2556 16:47:58 #1 คือว่าผมมีอาการคันบริเวณรอบๆ รูทวารอะครับ บางทีเกามากๆ ก็จะมีแผลแล้วก็แสบและมีน้ำซึมออกมา คือลักษณะคล้ายๆ เป็นวงรอบรูทวารอะครับประมาณว่าเป็นผื่นสีออกชมพูแล้วถ้าลองเอามือไปสัมผัสก็จะรู้สึกแสบตรงนั้น แล้วยิ่งเวลาอาบน้ำถ้าโดนน้ำจะแสบมาก แต่ไม่มีตุ่มอะไรนะครับ ผมเลยสงสัยว่าเป็นอาการของอะไร ไม่แน่ใจว่าเชื้อราหรือเปล่า ถ้าผมทายาที่ชื่อว่า Clotrimazole จะสามารถช่วยได้หรือเปล่าครับ ขอบคุณครับ |
|
อายุ: 19 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 78 กก. ส่วนสูง: 166ซม. ดัชนีมวลกาย : 28.31 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
21 เมษายน 2556 04:43:35 #2 ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เคยมีการสอดใส่หรือร่วมเพศทางทวารหนักโดยไม่ใช้ถุงยางอนามัย ด็อาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพัยธ์ ที่พบบ่อยและตรงกับอาการที่เล่ามา น่าจะเป็นเริม โดยที่แผลเริมจะเป้นจากเชื้อไวรัส Herpes ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เริ่มจากมัตุ่มน้ำใสหลายตุ่ม แล้วแตกกลายเป็นแผล ต้องใช้ยา aciclovirกินครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และจะเป็นๆหายๆโดยไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์ ดพราะจะมีเชื้อไปหลบอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนัง แต่ถ้าไม่มีประวัติเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ ก็อาจเป็นเรื่องของโรคผิวหนัง เช่น เชื้อรา ส่วนยา clotrimazole ที่คุณใช้อยู่เป็นยาเชื้อรา โดยสรุป ถ้าไม่แน่ใจ แนะนำหาหมอผิวหนัง หรือให้ประวัติทางเพศสัมพันธ์เพิ่มเติมและส่งรูปถ่ายชัดๆมาให้ดู จะตอบได้ตรงมากขึ้นครับ
นพ. อนุพงศ์ |
JJlo*****e |
21 เมษายน 2556 15:03:26 #3 ผมไม่เคยมีประวัติทางด้านการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักครับ แต่อาการมันก็เป็นๆ หายๆ อะครับ ไม่มีตุ่มหรือเม็ดใสอะไรเลย เพียงแต่ว่าช่วงไหนมีอาการคันมันจะอดเกาไม่ได้แล้วทีนี้ยิ่งเกามันยิ่งแสบอะครับ คล้ายๆว่าบริเวณที่เกาแรงๆจะมีน้ำใสๆซึมออกมานะครับ แล้วก้จะมีอาการที่ว่าเป้นเหมือนผื่นขึ้นรอบๆอะครับ แต่ผ่านไปมันก็กลับเป็นปกติคือไม่คันไม่แสบนะครับ จะว่าพยาธิผมว่าก็ไม่น่าจะใช่ ผมเลยไม่แน่ใจว่าเป้นเพราะอะไร รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
22 เมษายน 2556 09:22:21 #4 ถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ก็สบายใจได้ว่าไม่ใช่โรคติดต่อ อาการที่ว่าน่าจะเป็นเรื่องการแพ้หรือระคายเคืองต่อสารที่ใช้ทำความสะอาด เช่น สบู่ยา เจล น้ำยาฆ่าเชื้อ เป็นต้น คงต้องสังเกตุและงดใช้ ให้ใช้น้ำสะอาด ซับให้แห้งเบาๆ ทายาแก้ เช่น triamcinolone 0.02% และยาเชื้อราที่ใช้อยู่ ถ้าไม่ดีขึ้น คงต้องรีบหาหมอผิวหนังครับ
นพ. อนุพงศ์ |
JJlo*****e |
28 เมษายน 2556 18:19:40 #5 สวัสดีครับคุณหมอ คือผมอยากรบกวนอีกรอบอะครับ (มีรูปให้ดู) ไม่ทราบว่าเป็นอะไรแน่อะครับ กังวลมากเลย แล้วก็อยากสอบถามเพิ่มเติมอะครับว่าไอ้ที่ปูดๆขึ้นมาตรงนั้นใช่ริดสีดวงหรือเปล่าอะครับ แต่ผมลองกดดูก็ไม่เจ็บนะครับ (ขอโทษนะครับหากภาพไม่เหมาะสม) http://haamor.com/media/images/webboardpics/JJlove-4679-1.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/JJlove-4679-2.jpg http://haamor.com/media/images/webboardpics/JJlove-4679-3.jpg |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
30 เมษายน 2556 09:08:02 #6 ขอบคุณที่ถ่ายรูปมาให้ดู ติ่งที่ยื่นมาและมีสีคล้าๆ น่าจะเป็นริดสีดวง ส่วนที่เป็นตุ่มคล้ายแผลตื้นๆและมีการอักเสบออกสีชมพู ถ้าแน่ใจว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ดูคล้ายกับเป็นเชื้อรา เพราะดูจากน้ำหนัก ค่อนข้างอ้วนอาจทำให้เกิดการอับชื้น แนะนำลองทายาเชื้อรา clotrimazole ถ้าไม่ดีขึ้น คงต้องหาหมอผิวหนังครับ นพ. อนุพงศ์ |
JJlo*****e |
30 เมษายน 2556 12:42:28 #7 ขอบคุณครับคุณหมอ ตอนนี้ผมใช้ยาตามที่คุณหมอบอกทั้ง 2 ตัวเลยครับ ทั้ง clotrimazole และ triamcinolone 0.02% แต่ว่าในกรณีที่คุณหมอบอกว่าเป็นริดสีดวงทวารต้องรักษายังไงครับ คืออาการเป็นโรคนี้ไม่จำเป็นต้องรู้สึกเจ็บบริเวณที่เป็นใช่มั้ยครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
1 พฤษภาคม 2556 04:52:51 #8 สำหรับการรักษาริดสีดวงขึ้นอยู่กับความรุนแรง ถ้าเป็นไม่มากก้จะยังไม่เจ็บ แต่ถ้าท้องผูก อุจจาระแข็งก้จะมีเลื้อดออกและเจ็บได้ แนะนำกินอาหารที่มีกากหรือเส้นใยมากๆ เช่น ผัก ผลไม้ และดื่มน้ามากๆ อาจใช้ยาสอดทางทวารหนักเพื่อลดอาการเจ็บและบวมในกรณีที่เป็นไม่มาก แต่ถ้าเป็นมากก็ต้องมีการผ่าตัด แนะนำพบแพทย์เชี่ยวชาญทางด้านศัลยกรรมตาม รพ. ทั่วไปครับ
นพ. อนุพงศ์ |
JJlo*****e |
1 พฤษภาคม 2556 14:34:40 #9 ขอบคุณ คุณหมอ มากๆนะครับ |
JJlo*****e