กระดานสุขภาพ

ดูแลอย่างไรที่จะมีสุขภาพทางเพศที่ดีครับ
Anonymous

20 พฤศจิกายน 2561 20:42:40 #1

เนื่องจาก  ตอนนี้ผมนอนดึกมาโดยตลอดครับ  เคยไปตรวจฮอร์โมนเพศชาย ค่าออกมาก็ปกติ  มีอาการไม่มีอารมณ์ทางเพศมากนัก แข็งอ่อนๆ  เคยมีอะไรกับแฟนแล้วอ่อนลงขณะร่วมเพศ เลยมีอาการกังวล กลัวๆครับ ทุกวันนี้แข็งนิ่มๆ

 

ผมคิดว่าน่าจะมากจากจิต ความกังวล  และ ผลจากการนอนดึกเป็นเวลานานหลายปี   ส่วนโรคอื่นๆ หัวใจ เบาหวาน ไม่มีครับ  

อยากให้หมอแนะนำ  นอกจากทานอาหารครบ 5 หมู่แล้ว  มีวิธีไหนอีกไหมครับ เช่น เสริม แร่ธาตุสังกะสี  หรืออะไรที่เร่งผลิตฮอร์โมนเพศและบำรุงน้ำอสุจิครับ  

 

สุดท้าย เรื่องออกกำลังกาย  หมอแนะนำ ยกน้ำหนัก หรือ ออกแบบ HIIT ที่มีผลต่อฮอร์โมนเพศมากที่สุดครับผม

รบกวนหมอแนะนำแบบละเอียดหน่อยน่ะครับ อยากได้ความรู้ด้านนี้แบบถูกต้องครับ  ขอบคุณครับ

อายุ: 23 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 21.48 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
พญ.กิติพร กวียานนท์

แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว/เวชศาสตร์ทั่วไป

21 พฤศจิกายน 2561 08:23:57 #2

การหย่อนสมรรถภาพทางเพศ (Erectile Dysfunction) หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่ากามตายด้านนั้น คือภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวได้สมบูรณ์ในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ อาการนี้อาจเกิดขึ้นกับผู้ชายในช่วงวัยใดก็ได้ แต่ก็มักจะพบมากขึ้นตามอายุทิ่เพิ่มขึ้น

กลไกในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายค่อนข้างมีความซับซ้อน กล่าวคือ สิ่งเร้าจะกระตุ้นสมองให้ส่งสัญญาณผ่านเส้นประสาทไขสันหลัง สัญญาณเหล่านี้ก็จะกระตุ้นให้เกิดการปล่อยสารเคมีที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลไปทำให้หลอดเลือดส่งเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จึงทำให้อวัยวะเพศชายขยายใหญ่ขึ้น เนื้อเยื่อของอวัยวะเพศชายมีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เรียงตัวกันเป็นแท่ง การแข็งตัวของอวัยวะเพศชายจะเกิดขึ้นเมื่อมีเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อนี้และมีการขยายตัวเต็มที่ การขยายตัวดังกล่าวจะไปกดเส้นเลือดดำทำให้เลือดไหลออกจากอวัยวะเพศชายได้น้อย สาเหตุของการเสื่อสมรรถภาพทางเพศนั้นอาจเกิดจากการสะดุดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งที่กล่าวมา โดยอาจมีสาเหตุจากปัญหาทางร่างกายหรือจิตใจก็ได้

ถึงแม้ว่าการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศชายนั้นจะเป็นเรื่องปกติและไม่ใช่สัญญาณของการเกิดปัญหาเรื้อรังก็ตาม แต่ผู้ที่ประสบปัญหาดังกล่าวก็ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ส่วนเรื่องวิธีการรักษาก็จะแตกต่างกันไปตามสาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

สาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

1.ปัญหาทางอารมณ์และจิตใจ เช่น ความรู้สึกผิดหรือความกังวลต่างๆ โดยเฉพาะความกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งกลัวว่าอวัยวะเพศจะไม่สามารถแข็งตัวได้ จนกลายเป็นสิ่งรบกวนใจถึงขนาดที่ทำให้เกิดเป็นความคาดการณ์ไปเองว่าจะเป็นเช่นนั้น

2.สภาวะที่มีผลกระทบต่อสมองและการลดลงของแรงขับทางเพศ ได้แก่ อาการซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท การใช้ยาที่มีผลต่อระบบประสาทส่วนกลาง เช่น ยาระงับประสาท ยาต้านการซึมเศร้า ยาลดความดันโลหิตบางชนิด และแอลกอฮอล์ รวมไปถึงการป่วยเรื้อรัง เช่นโรคหัวใจ ปอด ไต หรือโรคตับ และโรคมะเร็งบางชนิด

3.การเปลี่ยนแปลงด้านฮอร์โมนที่ทำให้ความต้องการทางเพศลดลง รวมถึงระดับเทสโทสเทอโรนลดลง ระดับโปรแลกตินเพิ่มขึ้น(ซึ่งขึ้นอยู่กับการทำงานของต่อมพิทูอิทารี่) และภาวะที่ต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนมากหรือน้อยเกินไป

4.ความผิดปกติต่างๆ ทางสมอง ซึ่งความผิดปกตินี้อาจไม่มีผลต่อเรื่องความต้องการทางเพศ แต่จะมีความเกี่ยวเนื่องทางระบบประสาทซึ่งมีผลต่อการทำหน้าที่ทางเพศ ความผิดปกติดังกล่าวจะรวมถึงเนื้องอกในสมองและเส้นเลือดในสมองอุดตันด้วย

5.มีความผิดปกติที่บริเวณไขสันหลัง เช่น ความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง (Multiple Sclerosis) หรือการบาดเจ็บที่ไขสันหลัง

เส้นประสาทส่วนปลายถูกทำลาย โดยมีสาเหตุจากโรคเบาหวาน หรือการผ่าตัดกระดูกเชิงกรานเพื่อรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก หรือมะเร็งลำไส้

6.การรับประทานยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาการเสื่อสมรรถภาพทางเพศได้ ได้แก่ ยาต้านอาการซึมเศร้า anticholinergics ยากลุ่มแอนตี้ฮีสตามีน ยาลดความดันโลหิตสูง เบต้า-บล็อกเกอร์ (และยาลดความดันอื่นๆ ในกลุ่ม antihypertensives) รวมไปถึงการได้รับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่เป็นระยะเวลานานๆ ด้วย

7.โรคที่เกี่ยวกับหลอดเลือดส่วนปลาย (การไหลเวียนของเลือดไม่ถึงอวัยวะส่วนปลายสุดและอวัยวะเพศชาย)

8.ความอ่อนล้า

9.อายุมากขึ้น

อาการของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

อวัยวะเพศชายไม่สามารถแข็งตัวหรือคงความแข็งตัวไว้ได้ จนทำให้เกิดความพอใจในขณะปฏิบัติกิจทางเพศได้

วิธีรักษาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ

หลีกเลี่ยงการรับสารนิโคตินจากการสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และสารเสพย์ติดอื่นๆ

ถ้ายาที่ใช้อยู่เป็นสาเหตุของการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แพทย์ผู้ให้การรักษาอาจเปลี่ยนยาชนิดใหม่ให้

กรณีที่การหย่อนสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุจากปัญหาด้านอารมณ์หรือจิตใจ แพทย์หรือผู้ให้คำปรึกษาทางจิตเวชจะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำที่เหมาะสมเพื่อรักษาอาการดังกล่าวได้

ถ้าระดับเทสโทสเทอโรนในเลือดต่ำ สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดเทสโทสเทอโรนเข้าร่างกายหรือแปะที่ผิวหนัง

อาจต้องทำการรักษา ถ้ามีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนสูง (Hyperthyroidism) หรือ ภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ (hypothyroidism) จนเกินไป

การรักษาด้วยยา Bromocriptine เพื่อรักษาระดับของโปรแลคตินที่เพิ่มมากเกินไป

ในปัจจุบันมีการรักษาด้วยยารับประทานสามชนิดที่มีประสิทธิภาพ นั่นคือ ยาไวอะกร้า (sildenafil) ยาเลวิตร้า(vardenafil) และยาเซียลิส (tadalafil) ยาทั้งสามชนิดสามารถรักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศได้โดยทำให้เลือดไหลเวียนเข้าไปสู่อวัยวะเพศชายได้ในระหว่างมีการกระตุ้นทางเพศ ยาเหล่านี้จะไม่ได้ก่อให้เกิดการแข็งตัวในช่วงที่ไม่ได้มีการกระตุ้นทางเพศ ยาไวอะกร้าและเลวิตร้าช่วยให้อวัยวะเพศชายแข็งตัวได้ประมาณ 4 ชั่วโมง ส่วนยาเซียลิสจะมีผลประมาณ 24-36 ชั่วโมง ผลข้างเคียงของยาทั้งสามแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย ยานี้ไม่ควรใช้กับผู้ที่กำลังใช้ยาประเภทที่มีส่วนผสมไนเตรทอยู่ เช่น ไนโตรไกลเซอริน หรือไม่ควรใช้กับคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดในสมองอุดตัน มีอาการหัวใจวาย หรือหัวใจเต้นผิดปกติขั้นรุนแรง

การใช้เครื่องปั๊มสูญญากาศเพื่อช่วยให้เกิดการแข็งตัว หลักการทำงานของเครื่องคือ อากาศจะถูกปั๊มออกจากท่อพลาสติกที่นำไปสวมไว้ที่อวัยวะเพศชาย ภายในเวลา 2-3 นาทีหลังทำการปั๊ม เลือดจะถูกดึงให้เข้าไปที่เนื้อเยื่อ corpora cavernosa ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีลักษณะคล้ายฟองน้ำ เมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวแล้ว เครื่องมือนี้จะถูกนำออกไป จากนั้นจึงนำหนังสติ๊กรัดที่ฐานของอวัยวะเพศชาย เพื่อช่วยให้คงการแข็งตัวได้

การฉีดยา alprostadil ด้วยตัวเอง ยาชนิดนี้เป็นยาที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัว เพื่อนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศชาย จนเกิดการแข็งตัว แพทย์ของคุณจะเป็นผู้แนะนำเทคนิควิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง

การรักษาด้วยการผ่าตัดสอดใส่วัสดุเข้าไปในอวัยวะเพศชาย วิธีการหนึ่งก็คือการสอดใส่วัสดุที่ขยายตัวได้ และมีโพรงสำหรับกักเก็บของเหลวได้ด้วย อีกวิธีการหนึ่งก็คือการฝังแท่งที่ยืดหยุ่นได้ ซึ่งสามารถดัดให้โค้งมาข้างหน้าเมื่อต้องการให้อวัยวะเพศอยู่ในภาวะแข็งตัว หรือเพื่อพับเก็บไว้กับลำตัวได้

ในบางกรณีซึ่งไม่มากนัก แพทย์อาจแนะนำให้ผ่าตัดหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนเข้าสู่อวัยวะเพศชายได้ดีขึ้น