กระดานสุขภาพ

สอบถามค่ะ
Anonymous

11 พฤศจิกายน 2561 07:43:35 #1

คือเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว มีเลือดออกคุณหมอให้ยา steron,transamin และ mednil มาทานค่ะ ทานจนหมด คุณหมอก็เลยนัดเพื่อมาตรวจดูว่าปวดท้องมั้ย ซึ่งดิฉันก็มีอาการปวดท้องเหมือนเป็นประจำเดือน คุณหมอเลยให้ยาชุดเดิมมากิน แต่คุณหมอไม่ได้บอกนะคะว่าเป็นยาชุดเดิม บอกแค่ว่า ตัว1 จะเริ่มกินวันที่ 25 แต่ถ้าเมนส์มาเยอะให้กิน ตัวที่เป็นแคปซูล ถ้าปวดท้องมากให้กินพอนสแตน แต่พอได้ยามาจึงรู้เป็นยาชุดเดิมค่ะ โดยหน้าซองยา steron มเขียนบอกวันเริ่มค่ะ แต่ mednil และ transamin ไม่มีบอกค่ะ ซึ่งทั้ง 3 ตัวได้มาจำนวนเยอะกว่าเดิม และคุณหมอก็นัดตรวจอาการอีกเดือนมกราค่ะ โดยยา mednil ได้มา 20 เม็ด และ transamin ได้มา 60 เม็ด ค่ะ อยากทราบว่า ยา mednil และ transamin สามารถทานได้เลยมั้ยคะ และต้องทานต่อๆไปจนครบ 60 และ 20 เม็ดหรือต้องหยุดบ้างคะ และส่วนยา steron ที่กิน 10 วันหยุด นี้คือเริ่มกินทุกๆวันที่ 25 ของทุกเดือนใช่มั้ยคะ และคือตอนนี้เป็นประจำเดือน อยากทราบว่าถ้ากิน ยา 2 ตัวนี้ไป จะมีผลกับประจำเดือนมั้ยคะ
อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 55 กก. ส่วนสูง: 156ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.60 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

12 พฤศจิกายน 2561 00:35:33 #2

คุณน่าจะมีปัญหาเรื่องการทำงานของไข่ที่ไม่ปกติ โดยเฉพาะภาวะไข่ไม่ตก หรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่จึงทำให้มีเลือดออกผิดปกติและมีอาการปวดท้องด้วย คุณหมอได้ให้การรักษาตามอาการโดยให้ฮอร์โมนโปรเจสโตเจนมารับประทานและให้ยา transamin ซึ่งเป็นยาห้ามเลือดทำให้เลือดแข็งตัวดีขึ้นมาทาน รวมทั้งให้ยาแก้ปวดมาทานด้วย ในกรณีที่คุณรับประทานยาแล้วอาการดีขึ้นก็สามารถทานต่อไปได้เรื่อยๆ ยา steron เป็นฮอร์โมนโปรเจสโตเจน แพทย์จะให้ทานทุกวันที่ 25 ของเดือน รับประทานนาน 10 วัน เมื่อยาหมดประจำเดือนก็จะมาตามปกติ ในกรณีที่แพทย์ให้ทานทุกวันที่ 25 ของเดือนก็ควรรับประทานตามที่แพทย์แนะนำ อย่างไรก็ตาม ควรหาสาเหตุของอาการปวดประจำเดือนด้วยโดยการตรวจอัลตราซาวด์ เพื่อดูว่ามีความผิดปกติอื่นใดที่รังไข่หรือตัวมดลูกหรือไม่ จะได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้องต่อไป เพราะถ้ามีพยาธิสภาพที่ตัวมดลูกหรือรังไข่ควรจะต้องรักษาอาการที่เป็นสาเหตุของอาการปวดประจำเดือนด้วย แต่ถ้าไม่พบความผิดปกติก็สามารถรักษาด้วยการใช้ฮอร์โมนได้ต่อไปเรื่อยๆ ค่ะ