กระดานสุขภาพ

แสบ แดงบริเวณแคมอวัยวะเพศ ควรรักษาเบื้องต้นยังไงคะ
Pyp1*****0

4 ตุลาคม 2561 16:06:06 #1

คือส่วนตัวไปเที่ยวต่างประเทศมา ซึ่งมีอากาศหนาว ทำให้เข้าห้องน้ำเพื่อไปปัสสาวะบ่อย แต่ไม่มีสายชำระ เลยต้องใช้กระดาษชำระในการเช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศ จนพอกลับมาเมืองไทย บริเวณแคมนอก มีอาการแดง บวม เจ็บ เหมือนเห็นได้ชัดว่าเราเช็ดแรงเกินไ น่ะค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ทราบว่คาวีทำยังไง หายาอะไรมาทา แถมช่องคลอดมีการฉีกขาดเล็กน้อย เลือดไหล เจ็บ แต่สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ส่วนตัวควรปฏิบัติตนในการหายาอะไรมารักษาคะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

อายุ: 30 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 58 กก. ส่วนสูง: 162ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.10 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

9 ตุลาคม 2561 08:32:56 #2

ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ

Anonymous

10 ตุลาคม 2561 15:13:57 #3

ขอบคุณมากค่ะ