กระดานสุขภาพ

กังวงมากเลยครับ
Anonymous

29 กันยายน 2561 07:31:20 #1

เป็นแผลตามภาพที่โคนอวัยวะ ไม่เจ็บ ผมมีเพศสัมพันธ์กับแฟนที่พึ่งครบกันได้ประมาณไม่เกิด 1 เดือนแล้วก็มีแผลลักษณะนี้เกิดขึ้นโดยไม่รุ้ตัว โดยที่มีการสวมถุงยางและไม่สวมถุงยาง ส่วนแฟนผมมีอาการแสบที่อวัยวะเพศแต่ผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากการเสียดสีหรือเปล่า นอกนั้นก็ไม่มีอาการอะไรเลย ไม่ทราบว่าเป็นอะไรหรอครับ แล้วมีวิธีการรักษาอย่างไรได้บ้าง รบกวนคุณหมอด้วยนะครับ ขอบคุณครับ รูป>>>

http://haamor.com/media/images/webboardpics/62763-45919.jpg

อายุ: 31 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 73 กก. ส่วนสูง: 173ซม. ดัชนีมวลกาย : 24.39 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

29 กันยายน 2561 14:56:20 #2

  • ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลขนาดประมาณ 1 ซ.มฺ ที่บริเวณอวัยวะเพศ ถ้าทั้งตัวคุณและแฟนต่างก็ไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์มาก่อน คือไม่เคยร่วมเพศกับคนอื่นหรือเคยแต่ใช้ถุงยางทุกครั้ง ก็ไม่เป็นโรคติดต่อ แผลที่เป็นอาจจะเกิดจากการอักเสบของต่อมใค้ผิวหนังคล้ายกับการเป็นสิวหรือเป็นแผลที่เกิดจากการเสียดสีจากการร่วมเพศหรือเป็นโรคผิวหนังติดเชื้อจากการแกะหรือเกา แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีความเสี่ยงมาก่อน เช่นเคยมีแฟนและมีประวัติเป็นแผลเป็นๆหายๆ แผลที่เห็นก็อาจจะเป็นเริม ซึ่งถ้าเป็นเริม รอยโรคจะเริ่มด้วยการเป็นตุ่มแดง
  • แล้วกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ ภายใน 1-2 วัน
  • ตุ่มน้ำจะแตกออกกลายเป็นแผลตื้นๆ เริมเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด
  • เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม
  • ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต
  • รักษาโดยใช้ยา aciclovir 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชม. 5-7 วัน และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ
  • เพราะจะมีเชื้อเริม ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ (Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ
  • แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง อีกโรคที่พบได้แต่มักจะเป็นในเกย์หรือชายรักร่วมเพศคือแผลซิฟิลิส แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) โดยสรุป ขึ้นกับความเสี่ยง แนะนำหาหมอครับ