กระดานสุขภาพ

เป็นตุ่มที่อวัยวะเพศ มีหัวสีขาวคล้ายสิว
Sita*****0

21 กันยายน 2561 08:40:06 #1

เป็นตุ่มที่อวัยวะเพศ มีหัวสีขาวคล้ายสิว มีอาการคันร่วมด้วย มีตกขาว(ใกล้มีประจำเดือน) มีเพศสัมพันธ์ถี่ มีอาการคันมา 4 วันเเล้วค่ะ เพิ่งมาเป็นตุ่มที่ว่าได้1วัน

http://haamor.com/media/images/webboardpics/sita2540-45774.jpg

ตามภาพนี้ค่ะ

อยากทราบว่ามันคืออะไรหรอคะ ต้องทำอย่างไรอาการจะหายไป หงุดหงิดใจมากๆเลยค่ะ มันคัน

vขอบคุณคุณหมอล่วงหน้านะคะ

อายุ: 21 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 67 กก. ส่วนสูง: 172ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.65 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

15 ตุลาคม 2561 20:24:15 #2

ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ

ส่วนที่สังเกตเรื่องตุ่มที่บริเวณอวัยวะเพศนั้น จากที่หมอสังเกตอาจไม่ชัดนัด แต่หมอขอแนะนำให้มาตรวจกับสูตินรีแพทย์นะครับ เนื่องจากที่หมอสังเกตเห็นนั้นคล้ายติ่งเนื้อสีชมพูงอกบานออกทางด้านนอก ดูคล้ายหงอนไก่ หรือดอกกะหล่ำ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหูด (human papiloma virus, HPV) จากเพศสัมพันธ์ ดังนั้น หมอแนะนำให้มาพบแพทย์นะครับ เพราะ โรคในลักษณะนี้จำเป็นต้องใช้การตรวจรอยโรคและหากเป็นหูดจริงอาจต้องมีการตรวจภายในและพิจารณาจี้รักษาซ้ำอีกครั้งครับ ส่วนถุงยางอนามัยนั้น ไม่ได้ป้องกันภาวะนี้ได้ทั้งหมดนะครับ อาจติดต่อกันได้ ซึ่งปกติแล้วภาวะนี้จะตอบสนองดีต่อการรักษาครับ แต่จะเป็นซ้ำได้ง่ายช่วงที่ไม่แข็งแรง พักผ่อนน้อย หรือมีเพศสัมพันธ์บ่อยๆครับ ส่วนเรื่องวัคซีน มีประโยชน์แน่นอนครับ แม้จะเคยเป็นหูดหรือมีเพศส้มพันธ์แล้วครับ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปีด้วยนะครับ