กระดานสุขภาพ

คันและมีตุ่มบริเวณปากมดลูก
Anonymous

10 กันยายน 2561 10:01:15 #1

สวัสดีค่ะ อยากสอบถามถึงอาการคันบริเวณปากมดลูกค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็น โรคอะไรที่อันตรายหรือเปล่า หรือเพราะอับชื้น ส่วนตัวชอบออกกำลังกาย อาจจะเป็นเพราะอับและเจอเหงื่อบ่อยหรือเปล่า กลัวเป็นเกี่ยวกับ HPV ยังไงก็ขอคำปรึกษาด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 45 กก. ส่วนสูง: 158ซม. ดัชนีมวลกาย : 18.03 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

17 กันยายน 2561 15:26:26 #2

หากอาการคันที่กล่าวมานั้นอยู่ภายนอก คือ รอบๆอวัยวะเพศ ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุอาการบวมแดง คัน อักเสบบริเวณอวัยวะเพศนั้น มีสาเหตุหลักๆ 2 ประการ ครับ อย่างแรก คือมีการติดเชื้อในช่องคลอดก่อนแล้วทำให้อวัยวะเพศภายนอกมีอาการอักเสบไปด้วย เช่น เชื้อราครับ ซึ่งจะมีตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง คล้ายทิชชูเปียกหรือ นมโยเกิตร่วมด้วย และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น อาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ประการที่สอง คือ มีการแพ้สัมผัสจากสารเคมีต่างๆภายนอกครับ เช่น ผงซักฝอก ครีม สเปรย์ หรือ ชุดชั้นในต่างๆครับ ซึ่งอาการจะไม่มีตกขาว แต่จะมีเพียงอวัยวะเพศภายนอกบวมแดง คันเป็นหลักครับ การรักษาหลักคือใช้ยาทาในกลุ่มสเตียรอยด์ครับ อย่างไรก็ตาม หมอแนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์ก่อนนะครับ เนื่องจากจำเป็นต้องวินิจฉัยให้ได้ก่อน การใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ไปทาเชื้อรานั้น อาจทำให้อาการแย่ลงไปอีกนะครับ

ส่วนหากเรื่องปากมดลูกกับอาการที่ผิดปกตินั้น ปกติแล้วอาการของมะเร็งปากมดลูกนั้นอาจมีตั้งแต่ไม่มีอาการอะไร หรือ ตรวจพบจากการตรวจภายในหรือมีอาการเลือดออกและตกขาวหลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งปัจจุบันพบว่ามะเร็งปากมดลูกนั้นประมาณ 98% มีสาเหตุเกิดจากไวรัส HPV ที่ติดบริเวรปากมดลูกครับ ซึ่งติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ครับ ซึ่งไวรัสนี้มีหลายสายพันธุ์ บางสายพันธุ์ทำให้เกิดรอยโรคที่เรียกว่าหูดหงอนไก่ครับ อาจเป็นได้ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย และบางสายพันธุ์ทำให้เป็นมะเร็งปากมดลูกได้ครับ แต่ปกติแล้วร่างกายเราสามารถกำจัดไวรัสพวกได้นี้ แต่หากมีการติดเชื้อนี้บ่อยๆ เช่น มีคู่นอนหลายคน เพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย หรือมีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำ เป็นต้น ทำให้มีโอกาสที่จะผิดปกติเป็นมะเร็งปากมดลูกได้มากครับ ดังนั้น ไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์แบบใดก็มีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV นี้ได้ครับ ซึ่งผู้ชายอาจทำให้เกิดหูดหรือมะเร็งที่ทวารหนักได้เช่นกันครับ ดังนั้น ปกติแล้วที่เราตรวจภายในและตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือตรวจเชื้อไวรัสนี้นั้น ถือว่าเป็นวิธีคัดกรองโรคมะเร็งปากมดลูกได้ดีมากๆ หากตรวจทุกๆปี เราจะสามารถตรวจระยะก่อนมะเร็งได้ทำให้สามารถรักษาได้หายขาดครับ ส่วนอีกเรื่องคือ การฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV นั้น จะเป็นการป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ดีมากๆเช่นกันครับ