กระดานสุขภาพ

ขอคำแนะนำหน่อยครับตอนนี้เครียดมากครับ
Hell*****5

24 สิงหาคม 2561 15:18:50 #1

คือผมไปตรวจกับคุณหมอมาครับ หมอบอกว่าผมเป็นเริมที่อวัยวะเพศ หมอเลยสั่งยา Acyclovir ชนิดทามาให้ทาทุกสี่ชั่วโมง และให้ยา Tarivid 300 มาให้ทาน เช้าเย็น ครบ 1 อาทิตย์ แต่รอยของโรคยังไม่หาย ผมกลับไปหาหมออีกทีบอกบอกว่าแผลดีขึ้นแต่หมอบอกว่าติดเชื้อแบคทีเรีย เลยสั่งยา cefspan 100 MG cap และยา bactex 500 cream มาให้ทาเช้าเย็น ตอนนีทานยาจะครบอีกอาทิตย์แล้วครับครับ แต่รอยโรคยังไม่หาย ผมอยากทราบว่าผมต้องทำยังงัยครับ ต้องกลับไปพบแทพย์อีกหรือป่าวครับ ตอนนี้เครียดมากเลยครับช่วยตอบผมทีครับ

อายุ: 32 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 80 กก. ส่วนสูง: 178ซม. ดัชนีมวลกาย : 25.25 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

25 สิงหาคม 2561 17:38:19 #2

แผลที่เป็นบริเวณอวัยวะเพศ ถ้ามีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ เช่น เที่ยวผู้หญิง ไม่ใช้ถุงยาง มีคู่นอนหลายคน


1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น


มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง ในกรณีของคุณถ้าเป็นแผลเริม ยาทาจะได้ผลไม่ดีเท่ายากิน


2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์)


โดยสรุป ถ้าเป็นแผลเริมก็จะหายใน 10-14 วัน ถ้าไม่แน่ใจให้รักษาต่อเนื่องหรือส่งรูปถ่ายชัดๆบริเวณที่เป็นแผลมาให้ดูเพิ่มเติม และแนะนำว่าควรตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสโดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าตรวจ