กระดานสุขภาพ

เป็นแผลตรงส่วนคอ อวัยวะเพศครับ
Robe*****9

15 สิงหาคม 2561 03:52:43 #1

ประมาน10วันที่แล้ว มีอะไรกับแฟน(ผู้ญ) ไม่ได้ใส่ถุงยางครับ แล้วอีกวันนึงมันเหมือนมีรอยแดง เวลาโดนน้ำแสบๆนิด ตรงช่วงระหว่างรอยต่อของหนังหุ้มกับอวัยวะเพศอ่ะครับ(ซึ่งเคยเป็น2-3วันหาย) แต่รอบนี้เหมือนไม่ดีขึ้น เลยไปหาหมอร้านยาปากซอย เค้าให้ครีม เยนตั้ล-เอฟ ครีม มาใช้ ปรากฎว่าใช้ไปประมาน2วันแย่ลงกว่าเดิมครับ เริ่มมีเหมือนหนองน้ำเหลือง ผมเลยไปหาหมอที่คลินิคนิรนาม หมอดูแผลแล้วบอกว่าผมเป็นเริม แผลจะแห้งแล้ว ก้ให้ยาแก้เริมมากินไม่มียาทา ปรากฏว่าวันรุ่งขึ้น เหมือนแผลมันมีรอยหนองยาวกว่าเดิมนิดนึง ผมอ่านข้อมูลในเนต อาการเบื้องต้นผมไม่น่าจะใช่เริมอ่ะครับ เลยส่งรูปไปให้ผู้เชี่ยวชาญอีกที่ดู เค้าว่าเป็นเชื้อราทำให้เกิดแผล ก้แนะนำผมให้ใช้ผง บาโนซิน กับซื้ออม๊อกซี่มากินควบคู่กับยาเริมของหมอได้เลย แต่ผมไม่กล้าครับ เลยแค่ซื้อฟูซิดิน(ผสมขี้ผึ้ง)มาทา แล้วกะว่าถ้าทานยาเริมหมดยังไม่ดีขึ้น จะไปหาหมอทางเดินปัสสวะอีกที ตอนนี้เหมือนแผล และหนองจะเลกลง(หลังจากทานยาเริมมา4วัน ทาฟูซิดีน3วัน) แต่ยังเจบอยู่ครับ ผมอยากทราบว่าผมเป็นอะไรหรอครับ
อายุ: 29 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 75 กก. ส่วนสูง: 183ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.40 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Haamor Admin

(Admin)

15 สิงหาคม 2561 19:14:05 #2

ภาพแรก หลังจากแค่แดงๆเปนประมาน2วัน ใช้เยนตั้ล-เอฟ ครีม อีกประมาน2วันครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Robert99-45211-1.jpeg

ภาพที่2หลังจากผมใช้ฟูซิดีนรอบแรก(ประมาน6ชม) แล้วล้างออก เพราะเพิ่งเหนว่ามันหมดอายุ T^T

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Robert99-45211-2.jpeg

ภาพที่3 หลังจากไปตรวจที่คลินิคนิรนาม หมอให้ยาเริมมาทานได้1วันครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Robert99-45211-3.jpeg

ภาพที่4ล่าสุด ผมทานยาเริมมาได้ประมาน5วัน และใช้ฟูซิดีนทาประมาน4วันครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/Robert99-45211-4.jpeg

ขอบพระคุณมากครับ

นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

16 สิงหาคม 2561 02:00:59 #3

  • ดูจากรูปที่ส่งมา เห็นเป็นแผลหลายแผลที่รอบๆหนังหุ้มปลายอวัยวัเพศ จากประวัติที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย สาเหตุ 1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น
  • มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง
  • 2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) แต่ในปัจจุบันเริ่มพบในชายทั่วไปและหญิงด้วย โดยสรุป ในกรณีของคุณน่าจะเป็นเริมแต่เนื่องจากรูปที่ส่งมาขอบแผลดูมัลักษณะนูนและแข็ง อาจจะมีอาการของซิฟิลิสร่วมด้วยซึ่งการตรวจเลือดซิฟิลิสอาจจะยังให้ผลลบอยู่ จะให้ผลบวกเมื่อเป็นแผลแล้วประมาณ 2-3 อาทิตย์ ถ้าไม่แน่ใจก็อาจจะรักษาซิฟิลิสไปพร้อมกับการรักษาเริม คือการฉีดยาตามที่ได้กล่าวไปแล้ว หรือกินยา doxycycline ครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น เป็นเวลา 2 อาทิตย์ โดยสรุป น่าจะเป็นเริม แต่อาจจะมีการติดเชื้อซิฟิลิสร่วมด้วย แนะนำหาหมอ สามารตรวจเลือดเอดส์โดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าาตรวจครับ