กระดานสุขภาพ

โรคเชื้อราในช่องคลอด สามารถติดต่อกันได้ไหมคะ
Chon*****2

14 กรกฎาคม 2561 16:22:36 #1

ขอเล่าก่อนนะคะ ไม่เคยเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดมาก่อนเลยคะ(ไม่ได้ทำพฤติกรรมที่น่าจะเป็นสาเหตุของโรค) แต่ตอนที่มีเพศสัมพันธ์กับแฟนครั้งแรกแบบไม่ได้ใส่ถุงยาง พอ 2 วันถัดมา ก็มีอาการคันบริเวณปากช่องคลอด และตกขาวขุ่นมีตะกอน พอลองหาข้อมูลดูก็รู้ว่าเป็นโรคเชื้อราในช่องคลอด เลยซื้อยามาทานเองคะ หลังจากนั้นอาการคันและตกขาวก็หายคะ พอมีเพศสัมพันธ์กับแฟนอีก(ไม่ได้ใส่ถุงยาง) ก็มีอาการอีก ซื้อยามาทานเองอีก อาการก็หายคะ คือเป็นแบบนี้มา 4 รอบแล้วคะ เลยอยากจะถามว่า 1. ผู้ชายสามารถเป็นต้นเหตุให้เป็นเราโรคเชื้อราในช่องคลอดได้ไหมคะ (ส่วนตัวคิดว่าเค้าติดมาจากที่อื่น พอมีเพศสัมพันธ์กัน เลยทำให้เราติดมา แต่ผู้ชายไม่มีอาการนะคะ) 2. การมีเพศสัมพันธ์กันสามารถทำให้เป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดได้ไหมคะ 3. โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ไหมคะ (จะทราบได้อย่างไรว่าเราหายขาดแล้ว) 4. ถ้าเราทานยาแล้วอาการคันหรือตกขาวหายแล้ว เราจะต้องให้ผู้ชายรักษาด้วยไหมคะ ให้เค้าทานยาด้วยหรือเปล่า 5. โรคเชื้อราในช่องคลอดสามารถเป็นต้นเหตุของโรคอื่นได้ไหมคะ เป็นโรคที่อันตรายไหมคะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
อายุ: 22 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 53 กก. ส่วนสูง: 160ซม. ดัชนีมวลกาย : 20.70 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

15 กรกฎาคม 2561 19:21:09 #2

อาการคันและมีตกขาวผิดปกติมีลักษณะเหมือนนมบูดเป็นก้อนออกมา มักมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อรา ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคันและมีตกขาวผิดปกติได้ สาเหตุน่าจะเกิดจากความอับชื้นหรือการดูแลอนามัยทางช่องคลอดที่ไม่ถูกวิธี ในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์นั้น คุณควรจะต้องลุกขึ้นทำความสะอาดทันที และพยายามหลีกเลี่ยงความอับชื้นโดยการใช้ผ้าอนามัยแผ่นบางและเปลี่ยนทิ้งให้บ่อยทุก 2-3 ชั่วโมง การติดเชื้อรานั้นอาจจะมาจากฝ่ายชายก็ได้ ซึ่งถ้าฝ่ายชายมีเชื้อราก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อมาสู่ฝ่ายหญิงในขณะที่มีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ส่วนใหญ่ฝ่ายชายมักจะไม่มีอาการเพราะไม่ได้เป็นจุดที่มีความอับชื้น ดังนั้น จึงควรให้ฝ่ายชายทําความสะอาดที่บริเวณปลายอวัยวะเพศให้ดีด้วย โดยการรูดหนังหุ้มปลายขึ้นและใช้สบู่ฟอกให้สะอาดและอาจจะต้องทำการรักษาฝ่ายชายร่วมด้วย เพื่อที่จะได้หายทั้งสองฝ่าย โรคเชื้อรานั้นถ้าไม่มีความอับชื้น ส่วนใหญ่ก็มักจะไม่เป็นหรือกลับเป็นซ้ำบ่อยๆ แต่ถ้าเป็นซ้ำบ่อยๆ จะต้องหาสาเหตุเพราะอาจจะเกิดจากความอับชื้นหรือไม่ได้รักษาคู่นอนร่วมด้วย การรักษาฝ่ายชายนั้นส่วนใหญ่จะให้รับประทานยาทานยาประมาณ 3 ถึง 5 วัน อาการก็น่าจะดีขึ้นได้ โรคเชื้อราในช่องคลอดไม่ได้เป็นสาเหตุของโรคมะเร็งหรือโรคอื่นที่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่อาจจะทำให้เกิดความรำคาญ พร้อมทั้งมีอาการคันและทำให้เกิดอาการตกขาวผิดปกติเรื้อรัง ซึ่งควรทำการรักษาค่ะ ยาที่ใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นยาในกลุ่มโคลไทยมาร์โซลหรือคีโตโคนาโซล ซึ่งมีทั้งชนิดสอดทางช่องคลอด ทาภายนอก และชนิดรับประทาน ซึ่งสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างต่อเนื่องได้ การวินิจฉัยภาวะนี้แพทย์จะนำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์จะได้ทราบสาเหตุการติดเชื้อที่แน่นอนและจะได้รับการรักษาได้อย่างถูกต้องต่อไปค่ะ

Herc*****a

17 กรกฎาคม 2561 12:44:24 #3

1.ผู้ชายสามารถเป็นต้นเหตุให้เกิดเชื้อราได้ค่ะ ถ้าเขาดูแลทำความสะอาดอวัยวะเพศไม่สะอาดพอ
2. การมีเพศสัมพันธ์กันถ้าไม่สะอาดก็สามารถทำให้เป็นโรคเชื้อราในช่องคลอดได้ค่ะ
3. โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยต้องทำการรักษาโดยการกินยาปฏิชีวนะหรือใช้ยาสอด อย่างเราเคยเป็นเชื้อราในช่องคลอด เราก็ใช้ยาสอดนีโอ เพโนทราน ฟอร์ทและดูแลช่องคลอดไม่ให้มีความอับชื้น เชื้อราก็ดีขึ้นและตกขาวค่อยๆหายไปค่ะ
4. ถ้าเราทานยาแล้วอาการคันหรือตกขาวหายแล้ว เราไม่ต้องให้ผู้ชายรักษาด้วยค่ะ แค่ให้ทางผู้ชายรักษาความสะอาดอวัยเพศให้ดีพอ ไม่ให้อับชื้น
5. โรคเชื้อราในช่องคลอดไม่สามารถเป็นต้นเหตุของโรคอื่นที่อันตรายได้ค่ะ แต่แค่จะมีตกขาวเฉยๆ