กระดานสุขภาพ
| มีปัญหาเป็นแผลที่อวัยวะเพศเรื้อรังครับ | |
|---|---|
|
6 เมษายน 2556 15:55:17 #1 ขอเล่ารายละเอียดก่อนครับ ได้ไปเที่ยวบริการอาบอบนวดมาเมื่อ 01/55 หลังจากนั้นได้เป็นแผลริมอ่อนมารักษาหาย ก้อมีเริมตามมาอีก และหัวอวัยวะเพศมีอาการเป็นผื่นแดง มีคราบเหมือนหนองที่แผลบ้างไม่มีบ้าง เป็นมาตลอด จนถึงปัจจุบันเป็นเริมมาร่วม10ครั้งเป็นแทบทุกเดือน ริมอ่อนประมาณ 3-4ครั้ง และอาการแผลที่หัวอวัยวะเพศก้อเป็นมาตลอด ทายาหายก้อกลับมาเป็นอีก ตอนนี้ใช้ยา ตระกูลN ที่มีส่วนผสมแก้อักเสบทาทุกวัน แต่พักหลังทาแล้วเหมือนกับไม่ค่อยจะหายแล้วครับเหมือนกับเริ่มดื้อยา ได้แนบรูปประกอบมาให้ครับ ควรจะรักษาต่ออย่างไรดีครับ และมีสาเหตุมาจากอะไรครับ |
|
| อายุ: 27 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 60 กก. ส่วนสูง: 165ซม. ดัชนีมวลกาย : 22.04 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9) | |
Sick*****r |
6 เมษายน 2556 15:55:47 #2 http://upic.me/i/hf/20130406_223125.jpg |
Sick*****r |
8 เมษายน 2556 17:11:35 #3 ขอสอบถามเพิ่มเติมครับ ถ้าผมขลิปจะช่วยลดโอกาสในการเป็นเริมและแผลไหมครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
9 เมษายน 2556 04:15:39 #4 เนื่องจากรูปที่ส่งมาไม่ค่อยชัด ขอตอบรวมๆดังนี้ แผลริมอ่อนเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เมื่อรักษาหายแล้ว ถ้าไม่มีความเสี่ยงทางเพศสัมพันธ์ จะไม่เป็นอีก ในกรณีของคุณ ถ้าเคยเป็นแผลริมอ่อนแต่ถ้าไม่ได้เที่ยวอีกหรือเที่ยวแต่ใช้ถุงยางก็ไม่น่าจะเป็นแผลริมอ่อนอีก ส่วนเริมนั้นเป็นสาเหตุของแผลที่อวัยวะเพศที่พบบ่อยที่สุด เกิดจาการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผล เจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อเริม (ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสที่เรียกว่า เฮอร์ปีส์ Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ แต่การเป็นซ้ำครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรงและหายเองได้ ต้องระวังการมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะติดต่อได้ง่ายครับ ดูจากรูปอาจจะเป็นอาการแพ้หรือระคายเคืองก็ได้ อยากให้ถ่ายรูปชัดๆหรือเล่ามาใหม่ว่าเป็นตุ่มน้ำใสก่อนเป็นแผลหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเริมและเป็นบ่อยมาก มีวิธีที่จะทำให้เป็นน้อยครั้งได้ครับ หรือถ้าไม่แน่ใจให้หาหมอผิวหนังครับ
นพ. อนุพงศ์ |
Sick*****r |
9 เมษายน 2556 19:45:22 #5 เริมกลับมาเป็นอีกแล้วครับแผลใหญ่กว่าที่เคยเป็นมาก ที่หัวอวยัวะเพศนี่โรคใช่เริมด้วยไหมครับ ตอนนี้อาการที่ยังเป็นอยู่ประจำก้อคือเริมและแผลที่หัวอวัยวะเพศครับ เคยไปเที่ยวบริการไปแค่ครั้งเดียวครับ |
Haamor Admin(Admin) |
10 เมษายน 2556 15:16:45 #6 ถึง คุณ Sicker รบกวนช่วยแนบลิ้งค์ของรูปภาพให้ด้วยนะคะ เนื่องจากรูปที่คุณโพสมาไม่สามารถเปิดได้คะ ขอบคุณคะ |
Sick*****r |
10 เมษายน 2556 17:02:16 #7 |
Sick*****r |
10 เมษายน 2556 17:34:41 #8 แนบลิ้งค์ให้แล้วนะครับ ขอบคุณมากครับ |
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง |
12 เมษายน 2556 15:39:58 #9 ดูจากรูปไม่ค่อยชัด แนะนำว่าให้ลองสังเกตูว่าตอนเริ่มเป็น ถ้าเป็นเริม จะเป็นตุ่มใสๆก่อน หลังจากนั้นไม่นานก็จะแตกกลายเป็นแผลตื้นๆ ซึ่งจะหายเองได้ใน 7-10 วัน ดูจากรูปอีกโรคหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายคือ แผล Bechet's disease ซึ่งจะมีแผลที่อวัยวะเพศ แผลในปาก มักเป็นร่วมกับการทีมีโรคทางออโตอิมมูน แนะนำว่าให้หาหมอโรคผิวหนังเพื่อวินิจฉัยโรคและรักษาได้ถูกต้อง อาจไปตามโรงพยาบาลของคณะแพทย์ เช่น รามา ศิริราช จุฬา หรือสถาบันโรคผิวหนัง
นพ. อนุพงศ์ |
Sick*****r |
12 เมษายน 2556 16:30:21 #10 ลองค้นหาข้อมูลโรคน่ากลัวแหะ แต่ล่าสุดอาการที่เกิดขึ้นไม่มีตุ่มน้ำใสๆครับ ไม่เหมือนที่ผ่านมา จะดูออกว่าเป็นเริมเลย คงต้องไปหาหมอแล้ว ขอบคุณมากครับ
|
Sick*****r