กระดานสุขภาพ

คุณหมอช่วยตอบทีนะคะ
Worr*****y

4 เมษายน 2556 17:32:01 #1

มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้สอดใส่วันที่ 21 และ 29 มี.ค.คะ แล้ว วันที่ 30 ได้ทานยาคุมฉุกเฉินไปเพราะกลัว

6 วันหลังกินยามีอาการ เจ็บหน้าอกบริเวณฐาน ที่ท้องมีอาการแปลกๆอึนๆ เหนื่อยและอ่อนเพลีย(อาจเกิดจากการนั่งรถเป็นเวลานาน เพราะเดินทางไป ตจว.)

เดือน มี.ค. ปจด.มาวันที่ 12 คะ

หลังจากกินยาไปก็มีอาการข้างต้น อาการเช่นนี้เป็นผลจากยาใช่รึเปล่าคะ

หรือว่าเป็นสัญญาณว่า ปจด. ใกล้จะมา?(แต่ปกติเวลาประจำเดือนใกล้จะมา ไม่มีอาการใดๆเลย อยู่ดีๆก็มา)

และการมีเพศสัมพันธ์ลักษณะดังกล่าว เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไหมคะ มั่นใจได้แค่ไหน ?

(โดนน้ำหล่อลื่นของฝ่ายชายด้วย และหนูอาจอยู่ในช่วงตกไข่ด้วยคะ(ไม่มั่นใจแต่ก็อาจเป็นไปได้คะ))

อายุ: 20 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 50 กก. ส่วนสูง: 161ซม. ดัชนีมวลกาย : 19.29 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
Worr*****y

5 เมษายน 2556 06:08:23 #2

มีอาการ คอแห้งๆ และไอด้วยคะ T^T

พ*****

6 เมษายน 2556 04:44:03 #3

หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สอดใส่ ซึ่งหมายถึงไม่มีการสอดใส่เลยแม้เพียงเล็กน้อยนะคะ ก็ไม่น่าจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์

ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนระดับสูง ซึ่งมีผลไปเปลี่ยนแปลงมูกที่ปากมดลูกและป้องกันการฝังตัวของตัวอ่อน หลังรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปแล้วประมาณ 1 สัปดาห์จะมีเลือดออกทางช่องคลอดซึ่งเป็นผลจากฮอร์โมนที่มีอยู่ในยา และเมื่อรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินบางรายมีประจำเดือนมาปกติ แต่บางรายอาจจะทำให้ประจำเดือนมาเร็ว บางรายมาช้ากว่าปกติหรือขาดประจำเดือน จึงทำให้การคาดคะเนการตั้งครรภ์เป็นไปได้ยาก ส่วนปริมาณเลือดที่ออกมานั้นอาจจะมากหรือน้อยขึ้นกับระยะเวลาการรับประทานยาว่าตรงกับช่วงใดของรอบประจำเดือน หรือหากรับประทานบ่อยๆอาจทำให้ประจำเดือนไม่มาได้นานเป็นเดือน แต่อย่างไรก็ตามการรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้นถึงแม้จะรับประทานอย่างถูกวิธีและตรงเวลาก็ยังมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นหากเลือดที่ออกมีลักษณะกะปริบกะปรอย ผิดปกติไปจากเดิมควรตรวจการตั้งครรภ์ดูด้วยเพื่อความมั่นใจ

ยาคุมฉุกเฉินมีผลข้างเคียงของยา คือ อาจมีอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ปวดศีรษะ เวียนหัว เจ็บคัดเต้านม มักไม่มีอันตรายรุนแรง นอกจากนี้อาการที่พบได้บ่อย คือเลือดกระปริดกระปรอยออกมาระหว่างเดือน อาจทำให้ประจำเดือนมาช้าหรือมาเร็ว การใช้ยาคุมฉกเฉินติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้เกิดความผิดปกติของรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูก และมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์นอกมดลูกมากขึ้นเป็น 2% ซึ่งมากกว่าความเสี่ยงของคน สิ่งสำคัญ คือ ไม่ควรใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมากกว่า 2 ครั้งต่อเดือน เนื่องจากฮอร์โมนี่มีระดับสูง จะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายเกิดการแปรปรวนอย่างมาก จนทำให้รอบเดือนผิดปกติไป บางรายอาจไม่มีประจำเดือนมานานหลายเดือน ดังนั้นหากมีความจำเป็นจะต้องใช้ยาคุมกำเนิดมากกว่่าเดือนละ 1 ครั้งจึงแนะนำให้ใข้การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพมากกว่่า เช่น ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม (แบบ 21 หรือ 28 เม็ด) ซึ่งนอกจากจะคุมกำเนิดได้ดีแล้วยังมีประโยชน์ในเรื่องการควบคุมประจำเดือนให้มาเป็นรอบปกติ ลดอาการปวดประจำเดือน หรือบางยี่ห้อสามารถการลดสิว ผิวมัน ขนดก กลุ่มอาการก่อนเป็นประจำเดือนโดยอาจจะใช้ร่วมกับถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยค่ะ

Worr*****y

7 เมษายน 2556 14:57:21 #4

ตอนนี้ก็วันที่ 8 นับจากวันที่กินยาแล้ว ไม่มีเลือดออกมาเลยคะ จะมีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ

พ*****

8 เมษายน 2556 14:27:17 #5

ระยะเวลาที่จะมีเลือดออกบอกแน่นอนไม่ได้ค่ะ จะออกหรือไม่ จะออกเร็วหรือช้า ปริมาณมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับช่วงระยะเวลาของรอบประจำเดือนด้วยค่ะ ซึ่งช่วงที่คุณรับประทานยาประมาณว่าน่าจะเป็นช่วงหลังไข่ตกไปแล้ว อาจจะมีเลือดออกมาช้า หรือออกมามากเหมือนเป็นประจำเดือนได้ค่ะ