กระดานสุขภาพ

สวัสดีค่ะ
Anonymous

8 พฤษภาคม 2561 09:43:22 #1

พอดีมีปัญหามาถามค่า พอดี ตอนนี้ประจำเดือนยังไม่มาค่ะ มาวันที่ (20 มีนาคม หมด 28 มีนาคม ) แล้ววันที่ 3 เมษา เรามีไรกับเเฟนม่ใส่ถุง เเล้วจนวันนี้ประจำเดือนก้อยังไม่มา เเต่เรามีอาการ ปวดหัวบ่อยมาก ปวดมากเลยค่ะ เเล้ววันนี้เเฟนโทรบอกว่า หลังจากที่มีอะไรกัน สามวันนั้นเเล้วเค้าเริ่มมีอาการหนองไหล เเบบโรคหนองในที่เค้าเป็นกันค่ะ เเล้วเค้าบอกว่าให้เราซื้อยากินค่ะ เราเป็นอะไร เเล้วเราควรทำไงค่ะ (ตั้งเเต่เรามีอะไรกับเเฟนวันที่ 3 เมษานั้น เราก็ก็มีกับคนอื่นด้วยเเต่ใส่ถุงค่ะ)
อายุ: 17 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 84 กก. ส่วนสูง: 170ซม. ดัชนีมวลกาย : 29.07 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
รศ.พญ. สายฝน ชวาลไพบูลย์

(สูติ-นรีแพทย์)

9 พฤษภาคม 2561 06:20:11 #2

คงจะแยกตอบเป็นประเด็นค่ะ เรื่องของประจำเดือนที่ไม่มาตามปกติในเดือนเมษายน น่าจะมีสาเหตุมาจากการทำงานของรังไข่ที่ไม่ปกติได้ เพราะคุณมีน้ำหนักตัวมากจึงอาจจะมีปัญหาเรื่องการตกไข่ หรือเป็นกลุ่มอาการของถุงน้ำที่รังไข่ที่เราเรียกว่าพีซีโอเอสค่ะ อย่างไรก็ตาม คุณควรจะต้องทำการตรวจปัสสาวะเพื่อทดสอบการตั้งครรภ์ด้วยเนื่องจากคุณไม่ได้คุมกำเนิดโดยการสวมใส่ถุงยางอนามัยในช่วงวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา คุณจึงมีความเสี่ยงในเรื่องของการตั้งครรภ์ไ ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์ก็น่าจะเกิดจากปัญหาพีซีโอเอสเพราะหลังจากวันที่ 3 เมษายน คุณมีการคุมกำเนิดโดยการสวมใส่ถุงยางอนามัย จึงไม่ควรมีการตั้งครรภ์หลังจากวันที่ 3 เมษายน มาแล้ว ภาวะ PCOS (polycystic ovarian syndrome) คือภาวะที่รังไข่ มีผิวที่หนาตัวมากจึงทำให้ไข่ไม่สามารถตกได้ตามปกติ เมื่อไข่ไม่ตกก็จะไม่มีการสร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปทำให้ผนังเยื่อบุโพรงมดลูกสุก และหลุดลอกออกเป็นประจำเดือน จึงไม่มีประจำเดือนมาค่ะ มักพบในสตรีที่มีน้ำหนักตัวมาก และจะมีฮอร์โมนเพศชายคือแอนโดรเจนสูง ทำให้เกิดอาการสิวมาก หน้ามัน ขนดก มีหนวดเครา ขนหน้าแข้งมากได้ และยังสัมพันธ์กับภาวะมีบุตรยากด้วยในอนาคต ถ้าไม่พบการตั้งครรภ์คุณสามารถรับประทานฮอร์โมนโปรเจสโตเจนเพื่อควบคุมให้รอบเดือนเป็นปกติได้ โดยปรึกษาเภสัชกรตามร้านขายยาเพื่อหาซื้อฮอร์โมนมาทาน ทานนาน 7-10 วันรอบเดือนก็จะมาได้ แต่ตะต้องตรวจปัสสาวะก่อนเพือ่ดูว่าไม่มีการตั้งครรภ์จริงๆ ค่ะ ประเด็นที่ 2 ที่คุณถามมาน่าจะเป็นเรื่องของการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศหรือในช่องคลอด เนื่องจากแฟนคุณมีหนองออกมาทางอวัยวะเพศ ดังนั้น จึงสงสัยว่าคุณอาจจะมีการติดเชื้อร่วมด้วยเนื่องจากไม่ได้สวมใส่ถุงยางอนามัย ถ้าคุณสงสัยก็ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจภายใน โดยแพทย์จะนำสิ่งคัดหลั่งในช่องคลอดไปตรวจดู เพื่อที่จะยืนยันว่าคุณมีการติดเชื้อหนองในหรือไม่ถ้าตรวจพบก็จะได้ทำการรักษาควบคู่กันไป อาการหนองในจะทำให้คุณมีตกขาวผิดปกติหรือปัสสาวะมีหนองปนออกมาได้ ดังนั้น ถ้าสงสัยก็ควรรีบทำการรักษา มิเช่นนั้นจะทำให้เกิดการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน และอาจจะทำให้อุ้งเชิงกรานอักเสบมีพังผืดภายในและมีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรังร่วมกับมีบุตรยากต่อไปได้ในอนาคตค่ะ
________________________________________