กระดานสุขภาพ

ตกขาวเป็นมูกมีเลือดปนมีกลิ่นเหม็น(สีชอคโกแลต)
Anonymous

20 เมษายน 2561 02:51:39 #1

เมื่อประมาณเดือนมิถุนาปีที่แล้ว(60)ได้ตรวจตินเปปเพื่อฟอโล่อัพอ่ะค่ะ กว่าจะได้ผลตรวจก็ผ่านมา2อาทิตแล้ว คือผลตรวจมะเร็งปากมดลูกปกติค่ะ แต่พบการอักเสบและมีแนะนำว่าถ้ามีตกขาวผิดปกติให้มาพบแพทย์แต่คือกว่าจะทราบผลหนูก็เป็นไปแล้วอ่ะค่ะ เป็นตกขาวที่มีลักษณะคล้ายๆตกขาวที่เกิดจากเชื้อราลักษณะเป็นก้อนคล้ายนมบูด เลยไปร้านขายยาเภสัชก็จ่ายยารักษาอาการมาเป็นยาสอดและก็หายเป็นปกติ แต่ว่าพอผ่านไปประมาณเดือนนึงหนูมีเพศสัมพันกับแฟนผ่านไปได้ไม่กี่วันก็รู้สึกว่ามีตกขาวผิดปกติครั้งนี้มีกลิ่นร่วมด้วยคือมีกลิ่นเหม็น และรู้สึกว่ามีลมออกจากช่องคลอด(คล้ายผายลมอ่ะค่ะ) ก็เลยไปที่ร้านขายยาบอกอาการไปเภสัชก็เลยจ่ายยา metronidazole500มก รักษาอาการตกขาวจากเชื้อแบคทีเรีย หนูก็กินจนครบโดสนะคะ อาการหายไป แต่พอหนูมี พสพ กับแฟนอีก ก็กลับมาเป็นอีกอ่ะค่ะ หนูกินยา เมทโตนิดาโซน ไปทั้งหมด 2 ครั้ง อาการตกขาวหาย แต่พอมี พสพ ก้กลับมาเป็นอีก หนูไม่แน่ใจว่าตอนนี้คือหนูติดเชื้อแบคทีเรียรึเปล่า แล้วแฟนจำเป็นต้องรักษาด้วยไหม เมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมาก็ไปหาหมอพบว่าหนูติดเชื้อแบคทีเรีย(BV)หมอจ่ายยา doxycycline กับ clindamycin และแนะนำให้กินนมเปรี้ยวทุกวัน รวมทั้งให้นำชุดชั้นในเดิมไปต้มหรือเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด หนูได้กินยาและทำตามคำแนะนำของหมอแต่ดูเหมือนว่าอาการจะดีขึ้นกลิ่นที่มีก้ลดลง และหมอได้นัดไปฟลอโล่ตรวจตินเปปอีกครั้งเมื่อเดือน มีนาคม(61) ตอนขึ้นตรวจหมอพบว่ามีตกขาวลักษณะคล้ายเชื้อรา จึงจ่ายยา Itraconazole ให้มา หลังจากนั้นอาการตกขาวก็ดีขึ้นแต่ก็ยังคงมีกลิ่นยุบ้าง และล่าสุดคือวันที่12เมษา(61)ได้มี พสพ กับแฟนค่ะ แต่หลังมีเสร็จก็มีเลือดออกคิดว่าเป็น ปจด วันที่13เลยใส่ผ้าอนามัยแบบสอด+กับกลั้นปัสสาวะด้วย หลังจากนั้นรู้สึกปัสสาวะขัดตลอดอาการหนักขึ้นเรื่อยๆจนเมื่อวานนี้เห็นชัดว่ามีมูกลักษณะเหมือนตกขาวปนเลือดมีกลิ่นเหม็นออกมาหลังจากที่ปัสสาวะเสร็จทุกครั้ง และตอนที่ปัสสาวะก้รุ้สึกปวดขัดมากปัสสาวะไม่สุด ปัสสาวะบ่อย และมีอาการคันแต่ไม่มากเท่าไหร่บริเวณปากช่องคลอด (ภายนอก)ร่วมด้วย จึงไปร้านขายยาบอกอาการเภสัชจ่ายยา ciprofloxacin และ fluconazole ตอนนี้กินไปได้3วันแล้วอาการปัสสาวะขัดดีขึ้นแต่ตกขาวลักษณะเป็นมูกคล้ายเลือดปน(มูกสีชอคโกแลต)และมีกลิ่นก็ยังคงอยู่ ซึ่งตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีแล้วค่ะคุณหมอ **ผลตรวจมะเร็งปากมดลูกปกติ **ประจำเดือนมาครั้งล่าสุด 1มีนาคม61 **ไม่ได้คุมกำเนิด
อายุ: 24 ปี เพศ: F น้ำหนัก: 38 กก. ส่วนสูง: 154ซม. ดัชนีมวลกาย : 16.02 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.เกียรติศักดิ์ คงวัฒนกุล

(สูติ-นรีแพทย์)

29 เมษายน 2561 09:49:44 #2

ในเรื่องของอาการตกขาวนั้น หากตกขาวผิดปกติที่เป็นลักษณะสีขาวเหลือง อาจคล้ายทิชชูหรือแป้งเปียก และ มีอาการคันเป็นหลักนั้น จะเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ และในบางท่านอาจมีอาการคันบริเวณปากช่องคลอดร่วมด้วย ซึ่งลักษณะรอยโรคอาจเป็นผื่นสีออกชมพูหรือแดงๆ ขอบเขตชัดเจน มักเป็นสองข้างของปากช่องคลอดและผิวหนังระหว่างขาก็ได้ การรักษาหลักนั้น หากมีอาการภายในช่องคลอด ยาที่ใช้โดยทั่วไปเป็นมาตรฐานจะเป็นยาในช่ือสามัญ clotrimazole ครับ เป็นลักษณะเม็ด ใช้เหน็บช่องคลอด เป็นเวลา 7 วันนะครับ หากมีอาการภายนอกด้วย ก็อาจลองใช้ยาที่มีช่ือสามัญ clotrimazole ชนิดทา ทาก็ได้ครับ ที่สำคัญ ต้องทาบริเวณที่เป็นรอยโรค โดยเฉพาะอย่างย่ิง ที่ขอบ เพราะเชื้อราจะอยู่บริเวณนี้มากๆ และ เป็นบริเวณที่แบ่งตัว ลามต่อไปครับ ทาจนอาการดีชึ้นจนหาย และ ทาต่อประมาณ 1-2 สัปดาห์ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น จะเป็นซ้ำได้ง่าย และในช่วงที่มีประจำเดือน อาจเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยขึ้นเพื่อลดความอับชื้นนะครับ งดเพศสัมพันธ์ก่อนนะครับ หลังเข้าห้องน้ำหรืออาบน้ำก็ควรเช็ดด้วยผ้าสะดาดให้แห้ง ใช้ชุดชั้นในที่บางไม่อับชื้นง่าย อาจพิจารณาเปลี่ยนชุดชั้นในใหม่เลยครับ ส่วนหากมีลักษณะกลิ่นเหม็น หรือ คันมาก ตกขาวเป็นสีเขียวเหลืองจะเป็นอาการแสดงของการติดเชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดนะครับ ดังนั้น หมอแนะนำหากตกขาวยังคงผิดปกติอยู่ ควรมาพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจภายใน หาสาเหตุและรักษาอย่างถูกวิธีนะครับ

ซึ่งที่กล่าวมานั้น มีการรักษาเรื่องเชื้อราแล้วแต่มีบางประเด็นที่อาจทำให้เป็นซ้ำได้บ่อยครับ ดังนั้น หมอขอแนะนำเพิ่มเติม คือ งดใช้ผ้าอนามัยแบบสอด เหน็บยาให้ครบ 7 วัน โดยไม่ได้อยู่ในช่วงของการมีประจำเดือน งดเพศสัมพันธ์ ใช้ยาทาภายนอกหากมีอาการคันด้วยและต้องทาต่อแม้อาการจะหายไปแล้วอย่างน้อย 1 สัปดาห์ครับ อรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ คือ ลดการอับชื้นบริเวณนี้ เช่น ตัดขนบริเวณนี้ให้สั้น แต่ไม่ควรโกนนะครับ เพราะจะทำให้ผิวหนังเป็นแผลจากการโกนและเกิดผิวหนังอักเสบอีก เป็นต้นครับ