กระดานสุขภาพ

คันอัวยวะเพศมากครับ สงสัยว่าเป็นอะไรกันแน่ เหมือนจะเป็นเกลื้อนก็ไม่ใช่ อัณฑะก็ลอก
Palm*****9

11 เมษายน 2561 13:01:17 #1

สวัสดีครับคุณหมอ  ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะครับว่าผมเป็นคนค่อนข้างนนอดึกครับ ตีสองอัพเกือบทุกวันเลย บางวันตีห้า บางวันไม่นอน แต่ก็ต้องตื่นไปเรียน 9โมงเช้าอ่ะครับ คือพักผ่อนน้อยมาก แล้วก็เป็นคนชอบอาบน้ำอุ่นครับ อีกอย่างคือผมเหมือนเป็นเกลื้อนหรือเริมอะไรสักอย่าง ตั้งแต่ ม.ต้นแล้วครับ บริเวณขาหนีบ ก้น ต้นคอ คิ้ว เป็นๆหายๆ แต่ทายาไลมารินคืนเดียวก็หายแล้วครับ แต่ประเด็นมันอยู่ตรงนี้ครับ คือผมมีอาการแบบนี้มาตั้งแต่กลางมีนาแล้วครับ คือมันหนักขึ้น เหมือนผิวบางขึ้นมากเลยครับ แบบโดนนิดเดียวก้แสบก้ระคายเคือง และคันมากๆ คันยิบๆ อยู่ๆก้คันขึ้นมา แล้วพอไปเกามันก้จะแสบๆคัน หยุดไม่ได้ ต้องทนฝืนเอาครับ มือลอกเท้าลอก  แล้วอวัยวะเพศก้มีผื่นแดงๆขึ้น คันมากๆครับ  ตอนแรกคิดว่าเป็นเหมือนที่เคยเป็นแต่ปกติมันจะไม่เคยขึ้นตรงนี้ ครั้งนี้ทาไลมารินก็ไม่หายครับแล้วคันทั่วอวัยวะเพศเลย บางทีจนต้องช่วยตัวเองให้หายคัย ก้ทุเลาลงนะครับแต่มีเหมือนเลือดช้ำๆด้วย เวลาฉี่ก็แสบๆคันๆยิบๆ เวลาอาบน้ำก็ถูสบู่ไปโดนตรงผิวอัณฑะไม่ได้นะครับ แสบมากๆ(สบู่มาดามเฮง) แล้วพอแห้งมันก็จะเป็นขุยสีขาวๆ ทนไม่ไหว ทีนี้เลยไปซื้อยาคานาโซลมาทา ปรากฏว่าเหมือนจะดีขึ้นมาหน่อยครับ  เริ่มจะจางๆไป แต่ผิวองชาตมันก็ยังจะสากๆอยู่นะครับ แต่หลังจากนั้นมาสักสองอาทิต หนังหัวผมก็เหมือนมีเกล็ดแผล ผมนึกว่าสิวหรือปล่าวก็ลองแกะดู แกะออกมามันก็เหมือนเสก็ดแผลธรรมดาอ่ะครับ คันนิดหน่อย ไม่เจ็บ ไม่มีเลือด แต่หลังจากนั้นสองสามวัน มันก็นขึ้นเพิ่มมาอีกห้าหกเม็ดเลย บางเม็ดใหญ่เท่าตัวหมดเลยครับ พอแกะก็มีเลือดซึมๆ ผมชอบแกะให้หมดแล้วไปสระผม เพราะคิดว่ามันจะได้สะอาด แต่มันก็ไม่หายครับ TT คันทั้งหัวทั้งอวัยวะเพศเลย แล้วล่าสุดครับ เมื่อวานซืน อยู่ๆผิวอัณฑะก็ถลอกครับ!! แสบมาก ไม่รู้ว่าถลอกได้ไง แบบว่าตื่นมาก้แสบเลยครับ ต้องนั่งในที่ที่ไม่อับ พยายามทาแป้ง เหมือนจะลามได้ด้วยอ่ะครับ ตอนนี้ต้องเดินกางๆขา เพราะถ้าเสียดสีคือแสบมากเลย ทรมาณมากครับ กลุ้ม 

ประเด็นรอง (หนึ่งอาทิตย์ก่อนมีอาการ)

-ผมมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดแบบไม่ป้องกันครับ..... แล้วผมไม่รู้ว่าเขามีแผลที่อวัยวะเพศ เขาเพิ่งให้ดูตอนเสร้จแล้วอ่ะครับ TT มันเป็นวงรีประมาณ 5 ซม.แล้วมีหนองด้วย มันอยู่ใต้หัวตรงหยักอ่ะคับผมเลยไม่เห็น แต่เขาบอกว่าเป็นผมฟันผมโดนครั้งก่อนหน้านั้น ซึ่งผมไม่เชื่อเท่าไร ตอนนี้เขาหายแล้วนะครับ ผมอยากรู้ว่าผมติดเชื้อจากเขาไหมครับ แล้วมันเป็นเชืออะไรได้บ้างครับ ถ้าไม่ใช่ฟันโดน ผมมีสิทธิ์เป็นเอสด์ไหมครับ กลัวจะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มากๆครับ แต่ว่าทำไมผมถึงไม่เป็นแผลแบบเค้า 

-ก่อนที่จะเป็นผมนอนดึกมากๆ เพราะเป็นช่วงใกล้สอบปิดเทอม แต่ช่วงที่ซื้อคานาโซลมาทาคือปิดเทอมแล้ว มันจะเกี่ยวกันได้ไหมครับ ว่าพอพักผ่อนมากขึ้น อาการจะทุเลาลง ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ตุ่มที่หัวมันมาได้ยังไงครับ

-ด้วยการที่ผมนอนดึกมากๆ บางทีผมก้ไม่อาบน้ำครับ.......... 

.......

ผมเป็นอะไรกันแน่ครับหมอ  กลุ้มมากเลยครับ เพราะถ้าไปโรงพยาบาลก็ต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟัง ผมอยากรู้วิธีรักษาที่ผมสามารถทำได้เองก่อนหนะครับ ตอนนี้อาการหลักๆเลยคือคันมากๆครับ คันไปหมดเลย  ตรงอัณฑะก็แสบ

รูปประกอบครับ

http://haamor.com/media/images/webboardpics/palm_jhtny89-42972-1.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/palm_jhtny89-42972-2.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/palm_jhtny89-42972-3.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/palm_jhtny89-42972-4.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/palm_jhtny89-42972-5.jpg

http://haamor.com/media/images/webboardpics/palm_jhtny89-42972-6.jpg

อายุ: 20 ปี เพศ: M น้ำหนัก: 71 กก. ส่วนสูง: 175ซม. ดัชนีมวลกาย : 23.18 (ค่ามาตรฐานคนเอเชีย=18.5-22.9)
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคผิวหนัง

23 เมษายน 2561 16:50:26 #2

  • จากประวัติที่เล่ามา แสดงว่าคุณน่าจะเป็นเกย์หรือชายรักร่วมเพศ และมีความเสี่ยงคือไม่ได้ใช้ถุงยาง แผลที่พบบ่อยที่อวัยวะเพศคือ 1. โรคที่พบบ่อยคือ เริม เกิดจากเชื้อไวรัส Herpes simplex อาการจะเป็นหลังจากที่มีความเสี่ยงประมาณ 5 -10 วัน ในกรณีที่เป็นครั้งแรก จะมีอาการรุนแรง เช่น
  • มีตุ่มน้ำหลายๆกลุ่ม ปวดแสบปวดร้อน ตุ่มน้ำแตกเป็นแผลเจ็บและอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียร่วมด้วย นอกจากนี้อาจมีไข้ ต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโต ต้องรักษาโดยกินยาอะซัยโครเวียร์ (Aciclovir) ครั้งละ 200 มิลลิกรัม ทุก 4 ชั่วโมง (วันละ 5 เม็ด)ประมาณ 1 อาทิตย์ และเมื่อเป็นแล้ว มักเป็นๆหายๆ เพราะจะมีเชื้อไวรัส Herpes) ไปแฝงตัวอยู่ที่ปมประสาทใต้ผิวหนังบริเวณอวัยวะเพศ เมื่อมีการกระตุ้น เช่นการร่วมเพศ การช่วยตัวเอง ก็จะเป็นซ้ำ โดยอาจมีอาการปวด เสียว บริเวณผิวหนังก่อนที่จะเป็นแผล แต่การเป็นซ้ำ
  • ครั้งต่อๆไปจะไม่รุนแรง
  • 2. แผลซิฟิลิส หรือแผลริมแข็ง เกิดหลังมีความเสี่ยง 10- 90 วัน แผลจะมีขอบแข็ง ไม่เจ็บ เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Treponema pallidum รักษาโดยฉีดยา benzathine penicillin 2.4 ล้านยูนิต โรคนี้พบบ่อยในกลุ่มชายที่มีเพศสัมพันธ์กับชาย (เกย์) เพราะฉะนั้นถ้าแฟนคุณเป็นโรคใดโรคหนึ่ง คุณก็อาจจะติดโรคจากแฟนได้ นอกจากนี้ยังพบว่าในชายรักร่วมเพศมีโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์สูงกว่าชายทั่วไปหลายเท่า จึงควรจะตรวจเลือดเอดส์และซิฟิลิสโดยใช้สิทธิบัตรทองหรือประกันสังคม ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ส่วนเรื่องผื่นที่ขึ้นตามอวัยวะเพศและอัณฑะนั้น อาจจะมีสาเหตุ 1. เชื้อรา มักจะพบในคนที่มีเหงื่อออกมาก เช่นนักกีฬา หรือคนที่ทำงานกลงแจ้ง ใส่ชุดที่อับชื้น รักษาโดยการใช้ยาทาหรือยากินเชื้อรา เช่น clotrimazoleหรือ Iitraconazole ใช้เวลาประมาณ 4-6
  • อาทิตย์ ก็จะหาย เมื่อหายแล้วต้องระวังเรื่องสุขอนามัย เช่นอาบน้ำเช้าเย็น ใส่ชุดชั้นในที่แห้งและสะอาด ถ้าชุดชั้นในอับชื้นหรือมีเหงื่ออก ต้องรับอาบน้ำและเปลี่ยนชุดโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเป็นอีก 2. แพ้หรือระคายเคืองสารที่สัมผัส ทำให้คันและเกาจนเป็นผื่น รักษาโดยกินยาแก้แพ้ เช่น atarax ครั้งละ 10 มิลลิกรัม เช้าเย็น ทายาแก้แพ้ เช่น betamethasone หรือ อาจจะเป็นทั้งแพ้และเชื้อราร่วมกัน แนะนำหาหมอ อาจจะต้องมีการขูดผิวหนังเพื่อดูว่ามีเชื้อราหรือไม่ 3. โรคผิวหนังอื่นๆ เช่นโรคสะเก็ดเงินโดยสรุป คุณมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเอดส์และซิฟิลิส ซึ่งอาการทางผิวหนังอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการติดเชื้อเอดส์หรือซิฟิลิสก็ได้ หรืออาจจะเป็นโรคผิวหนังจากสาเหตุต่างๆที่ได้กล่าวไว้แล้ว แนะนำหาหมอครับ